กูรูนักชิมแนะนำ5ร้านอาหารสุดฮิปแห่งปี
กองทัพต้องเดินด้วยท้อง เมื่อท้องร้องต้องมองหาร้านอาหารอร่อย ๆ และถ้าร้านดังกล่าวมีบรรยากาศดีน่านั่ง ยิ่งช่วยทำให้ดื่มด่ำกับรสชาติอาหารในมื้อนั้น ๆ มากขึ้น สำหรับปีนี้กูรูนักชิม บัตรเครดิตซิตี้แบงก์ ยังทำหน้าที่อย่างหนักเพื่อเฟ้นหาร้านอาหารถูกปากถูกใจไว้เอาใจนักชิมได้อิ่มหนำสำราญ ล่าสุดคัดสรร 5 ร้านไดนิ่งสุดยอด “ฮิปแฮงก์เอาต์แห่งปี” ให้เปิดประตูต้อนรับนักชิมทุกคน ผ่านย่านทองหล่อต้องแวะ “ร้านบอทท่อม อัพ ไวน์ เบียร์ แอนด์ บิสโทร” ร้านอาหารอิตาลีบรรยากาศสุดคลาสสิก อยู่ตรงข้ามซอยทองหล่อ 21 ภายในร้านตกแต่งลักษณะของอาร์ติสต์แกลอรี่ ตัวร้านทั้งด้านนอกและด้านในมีการใช้เพ้นติ้ง เสริมบรรยากาศแนวเรโทรทั้งยุคเรอเนซองซ์, โรมัน, ป๊อปอาร์ต แบ่ง 3 โซนหลักได้แก่ “เดอะ เอาต์ดอร์ ชิล” นั่งชิลด้านนอก โซนที่สอง “อาร์ติสต์ บาร์” สดชื่นกับเครื่องดื่มนานาชนิด และ “ไดนิ่ง แกลอรี่” โซนสุดท้ายเหมาะพาสมาชิกครอบครัวมาสังสรรค์ มีเมนูแนะนำ เช่น พาสต้าซีฟู้ดและพาสต้าครีมกุ้ง ที่มีซอสครีมสูตรเฉพาะร้าน, พิซซ่าไส้แกงกะหรี่ญี่ปุ่นแห่งเดียวในเมืองไทย
หากใครหลงใหลเครื่องดื่มเย็น ๆ ต้องไม่พลาด “เซเว่นท์ สตรีท เมกาบางนา” โครงการเมกา บางนา ชั้น 1 โซนอีเวนต์ ตกแต่งแนวสตรีทอาร์ต ดึงเอาจุดเด่นของถนนสายดังทั่วโลกมารวมไว้ ตกแต่งโทนสีเข้มเพิ่มความสุขุม น่าค้นหา แฝงความอบอุ่นเป็นกันเองเหมือนนั่งจิบเครื่องดื่มเย็น ๆ อยู่บ้าน แบ่งโซนภายในร้านเป็น “สตรีทโซน” พร้อมสรรพเครื่องดื่มชั้นนำหลากแบรนด์ ไม่ว่ามากี่ครั้งจะได้ลิ้มรสชาติเครื่องดื่มใหม่ ๆ เสมอ ในส่วนอาหารทางร้านให้ความสำคัญ นักชิมไม่ควรพลาดแม้แต่เมนูเดียว, “ไฟว์ แกสโทรโนมี แอนด์ มิกโซโลยี” ร้านอาหารและบาร์ตกแต่งจำลองเหมืองใต้ดินโบราณของยุโรปในยุค 1920 ตั้งอยู่ที่เค วิลเลจ ซึ่งเมนูอาหารและเครื่องดื่มได้รับการออกแบบให้มีลักษณะเฉพาะตัว หากินได้เฉพาะร้านนี้เพียงแห่งเดียวเท่านั้น อาหารจานเด่นคือ สปาเกตตีหมึกดำเข้มข้นรสเผ็ดซ่านลิ้นนิด ๆ หรือชีส 3 ชนิดปั่นรวมกัน กินพร้อมขนมปังดำ นอกจากนี้ยังมีเมนูแนะนำต่าง ๆ เช่น ซูชิพาร์มาแฮมกับชีสโรยคาเวียร์, แซลมอนสลัด และไวท์ช็อกโกแลตมูส
อีกร้านสุดฮิปยอดนิยม “ไวน์ มี อัพ” ในโครงการซีน สเปซ คอมมูนิตี้แฮงก์เอาต์สุดเท่ ซอยทองหล่อ 13 กับสไตล์การตกแต่งเหมือนนั่งดื่มด่ำท่ามกลางอาร์ตแกลอรี่ทำให้บรรยากาศการสังสรรค์เต็มไปด้วยความสนุกมีสีสันทุกครั้ง พร้อมเปิดตัวเมนูน้องใหม่ล่าสุด สไตล์ครัวไทยสูตรพิเศษของทางร้านอย่าง ยำแกะย่าง, พล่าปลาแซลมอนม้วนร็อกเกต, มีท เลิฟเวอร์ รวมความอร่อยของไก่ทอดน้ำปลา เนื้อสันในแดดเดียว และหมูแดดเดียว อยู่ในจานเดียวกัน, กุ้งแช่น้ำปลาบนผักกาดแก้ว กลับเข้ามาสร้างความโรแมนติกภายในพลาซ่าแอทธินี ทาวเวอร์ บนถนนเพลินจิตและถนนวิทยุคือที่ตั้งของ “ร้านเลอ โบลิเยอ แตร์ราช” ร้านอาหารสไตล์ฝรั่งเศสผสมกลิ่นอายเมดิเตอร์เรเนียน โดยนำเสนออาหารต้นตำรับดั้งเดิมและอาหารยอดนิยม ประกอบไปด้วย หอยนางรมบริตตานี่ เซนต์-แคลร์ รสเลิศไปจนถึงบุยยาเบสส์, ก๊อกโกแว็ง และโฮมเมดปาเต้ รวมถึงเป็ดคอนฟิต นอกจากนี้ยังมีบริการอาหารจานเดียวและเมนูพิเศษ รวมทั้งอาหารกลางวันและอาหารเย็น.
ขอขอบคุณข้อมูล: dailynews.co.th ลงวันที่ 19-01-2013 By CreditOnHand
หากใครหลงใหลเครื่องดื่มเย็น ๆ ต้องไม่พลาด “เซเว่นท์ สตรีท เมกาบางนา” โครงการเมกา บางนา ชั้น 1 โซนอีเวนต์ ตกแต่งแนวสตรีทอาร์ต ดึงเอาจุดเด่นของถนนสายดังทั่วโลกมารวมไว้ ตกแต่งโทนสีเข้มเพิ่มความสุขุม น่าค้นหา แฝงความอบอุ่นเป็นกันเองเหมือนนั่งจิบเครื่องดื่มเย็น ๆ อยู่บ้าน แบ่งโซนภายในร้านเป็น “สตรีทโซน” พร้อมสรรพเครื่องดื่มชั้นนำหลากแบรนด์ ไม่ว่ามากี่ครั้งจะได้ลิ้มรสชาติเครื่องดื่มใหม่ ๆ เสมอ ในส่วนอาหารทางร้านให้ความสำคัญ นักชิมไม่ควรพลาดแม้แต่เมนูเดียว, “ไฟว์ แกสโทรโนมี แอนด์ มิกโซโลยี” ร้านอาหารและบาร์ตกแต่งจำลองเหมืองใต้ดินโบราณของยุโรปในยุค 1920 ตั้งอยู่ที่เค วิลเลจ ซึ่งเมนูอาหารและเครื่องดื่มได้รับการออกแบบให้มีลักษณะเฉพาะตัว หากินได้เฉพาะร้านนี้เพียงแห่งเดียวเท่านั้น อาหารจานเด่นคือ สปาเกตตีหมึกดำเข้มข้นรสเผ็ดซ่านลิ้นนิด ๆ หรือชีส 3 ชนิดปั่นรวมกัน กินพร้อมขนมปังดำ นอกจากนี้ยังมีเมนูแนะนำต่าง ๆ เช่น ซูชิพาร์มาแฮมกับชีสโรยคาเวียร์, แซลมอนสลัด และไวท์ช็อกโกแลตมูส
อีกร้านสุดฮิปยอดนิยม “ไวน์ มี อัพ” ในโครงการซีน สเปซ คอมมูนิตี้แฮงก์เอาต์สุดเท่ ซอยทองหล่อ 13 กับสไตล์การตกแต่งเหมือนนั่งดื่มด่ำท่ามกลางอาร์ตแกลอรี่ทำให้บรรยากาศการสังสรรค์เต็มไปด้วยความสนุกมีสีสันทุกครั้ง พร้อมเปิดตัวเมนูน้องใหม่ล่าสุด สไตล์ครัวไทยสูตรพิเศษของทางร้านอย่าง ยำแกะย่าง, พล่าปลาแซลมอนม้วนร็อกเกต, มีท เลิฟเวอร์ รวมความอร่อยของไก่ทอดน้ำปลา เนื้อสันในแดดเดียว และหมูแดดเดียว อยู่ในจานเดียวกัน, กุ้งแช่น้ำปลาบนผักกาดแก้ว กลับเข้ามาสร้างความโรแมนติกภายในพลาซ่าแอทธินี ทาวเวอร์ บนถนนเพลินจิตและถนนวิทยุคือที่ตั้งของ “ร้านเลอ โบลิเยอ แตร์ราช” ร้านอาหารสไตล์ฝรั่งเศสผสมกลิ่นอายเมดิเตอร์เรเนียน โดยนำเสนออาหารต้นตำรับดั้งเดิมและอาหารยอดนิยม ประกอบไปด้วย หอยนางรมบริตตานี่ เซนต์-แคลร์ รสเลิศไปจนถึงบุยยาเบสส์, ก๊อกโกแว็ง และโฮมเมดปาเต้ รวมถึงเป็ดคอนฟิต นอกจากนี้ยังมีบริการอาหารจานเดียวและเมนูพิเศษ รวมทั้งอาหารกลางวันและอาหารเย็น.
ขอขอบคุณข้อมูล: dailynews.co.th ลงวันที่ 19-01-2013 By CreditOnHand
เดอะมอลล์
ร่วมต้อนรับวันเด็กกับรายการ The White Wonderland ที่ KID’S PLANET ได้คัดสรรเสื้อผ้าแฟชั่นเด็กและของเล่นเด็ก ลดราคาสูงสุดถึง 50% ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ม.ค.และวันที่ 12 ม.ค. สนุกกับมายากล The White Magic Hatter และของเล่นนานาชนิดที่เพลย์กราวด์ พบกับเวิร์กช็อป pop up paper และการพับเครื่อง ร่อนที่เดอะมอลล์ บางกะปิ
ดิ เอ็มโพเรียม
จัดงาน LEGO & Emporium World of Imagination ซื้อสินค้าครบ 5,000 บาท ผ่านบัตรมาสเตอร์การ์ด รับทันทีตุ๊กตาหมี Teddy BEar ระหว่างวันนี้ถึง 14 ม.ค.นี้
ศูนย์การค้าสยามพารากอน
เอาใจคุณหนูด้วยขบวนพาเหรดแอนิมอลแฟนซีกับรายการ The Adventure of Magic Island พร้อมหลากหลายเครื่องเล่นสุดมันส์พิเศษ สมาชิกบัตรเครดิตไทยพาณิชย์แฟมิลี่พลัสรับฟรีบัตรเครื่องเล่น 1 ชุด พร้อมของสมนาคุณมากมาย ตั้งแต่วันนี้ถึง 13 ม.ค.นี้
ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์
จัดงาน Thailand Toy Expo 2013 พบกับมหกรรมการแสดงสินค้าของเล่นสำหรับเด็กแบรนด์ยักษ์กว่า 7 แบรนด์ สินค้าแฟชั่นเด็กลดสูงสุดถึง 50% ชมของเล่นชิ้นพิเศษหายาก โชว์ครั้งแรกในเมืองไทย เช่น แบรนด์ Coarse ได้นำงาน Soul Gone Mad set ที่มีเพียงชุดเดียวในโลกมาโชว์ ตั้งแต่วันนี้ถึง 13 ม.ค.นี้
ห้างเซ็นทรัล/เซน
จัดรายการ Central/WEN babies & Kids Funtastic Sale 2013 นำเสนอสินค้าแผนกเสื้อผ้าเด็กอ่อน เฟอร์นิเจอร์เด็กอ่อน เสื้อผ้า รองเท้า ของเล่นเคาน์เตอร์ปกติลดราคา 15-20% สินค้ายอดนิยมลด 20-30% สินค้าคุณภาพลด 30-50% ตั้งแต่วันนี้ถึง 3 ก.พ.นี้
ลอฟท์
มอบความสุขคูณ 3 ให้กับสมาชิกต้อนรับปีใหม่ด้วยสินค้าที่ส่งตรงจากทั่วโลก พิเศษกับโปรโมชั่น Let’s Live Alive! ยิ่งช็อปมากยิ่งได้มากสูงสุดถึง 3 เท่า ช็อปตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไปรับคะแนนสะสมเพิ่มสูงสุดถึง 15,000 คะแนน ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ม.ค.
อินเด็กซ์ลิฟวิ่งมอลล์
ฉลองครบรอบ 10 ปีกับสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าด้วยส่วนลดเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน 10% ทุกชิ้น ทั้งร้าน ตั้งแต่วันนี้ถึง 21 ม.ค.นี้
โฮมโปร
ร่วมกับบัตรเครดิตกสิกรไทย จัดแคมเปญ “เพิ่มสุข...วันศุกร์” จนถึง 28 ก.พ.นี้ โดยลูกค้าที่ซื้อสินค้าในทุกวันศุกร์ ผ่านบัตรเครดิตกสิกรไทย สามารถใช้คะแนนสะสมเท่ายอดซื้อรับส่วนลดเพิ่ม 20% หากเป็นวันอื่นๆ ใช้คะแนนสะสมเท่ายอดซื้อรับส่วนลดเพิ่ม 12%
เลโก้ฉลองวันเด็ก 56
ตัวต่อเสริมทักษะเลโก้ ขอมอบความสุขให้กับคุณหนูๆ ที่รักจินตนาการและความคิดสร้างสร้างสรรค์ ด้วยของขวัญแสนพิเศษจากตัวต่อเสริมทักษะเลโก้กับส่วนลดสูงสุด 30% สำหรับสินค้าเคาน์เตอร์ปกติ ณ ห้างสรรพสินค้าที่ร่วมรายการทั่วประเทศ ในวันที่ 12-13 ม.ค.นี้ เพียง 2 วันเท่านั้น สินค้ามีจำนวนจำกัด คลิก www.brickthailand.com
ศูนย์การค้าเสริมไทยคอมเพล็กซ์
ร่วมกับเสริมไทยพลาซ่า จัดกิจกรรมวันเด็ก ในวันที่ 12 ม.ค.นี้ พบกิจกรรมมากมาย อาทิ การเล่นเกมแจกของรางวัล, การโชว์เครื่องบินเล็กจากชมรมเครื่องบินเล็ก, การแสดงของเด็กๆจากโรงเรียนต่างๆในเขตเทศบาลเมืองมหาสารคาม, การแข่งขันทานพิซซ่าจากร้าน, การประกวดแดนเซอร์บริการอาหารและเครื่องดื่มฟรีตลอดงาน
ศูนย์การค้าอิมพีเรียล เวิลด์ สำโรง
จัดโปรโมชั่นต้อนรับวันเด็ก “imperial World Kids Fun Fair” พบกับเสื้อผ้าและของใช้สำหรับเด็กจากแบรนด์ชั้นนำ อาทิ Disney Kids, Tom & Jerry, MTR Toys ในราคาลดสูงสุด 80% วันนี้-23 ม.ค.นี้.
ขอขอบคุณข้อมูล:ไทยรัฐออนไลน์ ลงวันที่ 12-01-2013 By CreditOnHand
ร่วมต้อนรับวันเด็กกับรายการ The White Wonderland ที่ KID’S PLANET ได้คัดสรรเสื้อผ้าแฟชั่นเด็กและของเล่นเด็ก ลดราคาสูงสุดถึง 50% ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ม.ค.และวันที่ 12 ม.ค. สนุกกับมายากล The White Magic Hatter และของเล่นนานาชนิดที่เพลย์กราวด์ พบกับเวิร์กช็อป pop up paper และการพับเครื่อง ร่อนที่เดอะมอลล์ บางกะปิ
ดิ เอ็มโพเรียม
จัดงาน LEGO & Emporium World of Imagination ซื้อสินค้าครบ 5,000 บาท ผ่านบัตรมาสเตอร์การ์ด รับทันทีตุ๊กตาหมี Teddy BEar ระหว่างวันนี้ถึง 14 ม.ค.นี้
ศูนย์การค้าสยามพารากอน
เอาใจคุณหนูด้วยขบวนพาเหรดแอนิมอลแฟนซีกับรายการ The Adventure of Magic Island พร้อมหลากหลายเครื่องเล่นสุดมันส์พิเศษ สมาชิกบัตรเครดิตไทยพาณิชย์แฟมิลี่พลัสรับฟรีบัตรเครื่องเล่น 1 ชุด พร้อมของสมนาคุณมากมาย ตั้งแต่วันนี้ถึง 13 ม.ค.นี้
ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์
จัดงาน Thailand Toy Expo 2013 พบกับมหกรรมการแสดงสินค้าของเล่นสำหรับเด็กแบรนด์ยักษ์กว่า 7 แบรนด์ สินค้าแฟชั่นเด็กลดสูงสุดถึง 50% ชมของเล่นชิ้นพิเศษหายาก โชว์ครั้งแรกในเมืองไทย เช่น แบรนด์ Coarse ได้นำงาน Soul Gone Mad set ที่มีเพียงชุดเดียวในโลกมาโชว์ ตั้งแต่วันนี้ถึง 13 ม.ค.นี้
ห้างเซ็นทรัล/เซน
จัดรายการ Central/WEN babies & Kids Funtastic Sale 2013 นำเสนอสินค้าแผนกเสื้อผ้าเด็กอ่อน เฟอร์นิเจอร์เด็กอ่อน เสื้อผ้า รองเท้า ของเล่นเคาน์เตอร์ปกติลดราคา 15-20% สินค้ายอดนิยมลด 20-30% สินค้าคุณภาพลด 30-50% ตั้งแต่วันนี้ถึง 3 ก.พ.นี้
ลอฟท์
มอบความสุขคูณ 3 ให้กับสมาชิกต้อนรับปีใหม่ด้วยสินค้าที่ส่งตรงจากทั่วโลก พิเศษกับโปรโมชั่น Let’s Live Alive! ยิ่งช็อปมากยิ่งได้มากสูงสุดถึง 3 เท่า ช็อปตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไปรับคะแนนสะสมเพิ่มสูงสุดถึง 15,000 คะแนน ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ม.ค.
อินเด็กซ์ลิฟวิ่งมอลล์
ฉลองครบรอบ 10 ปีกับสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าด้วยส่วนลดเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน 10% ทุกชิ้น ทั้งร้าน ตั้งแต่วันนี้ถึง 21 ม.ค.นี้
โฮมโปร
ร่วมกับบัตรเครดิตกสิกรไทย จัดแคมเปญ “เพิ่มสุข...วันศุกร์” จนถึง 28 ก.พ.นี้ โดยลูกค้าที่ซื้อสินค้าในทุกวันศุกร์ ผ่านบัตรเครดิตกสิกรไทย สามารถใช้คะแนนสะสมเท่ายอดซื้อรับส่วนลดเพิ่ม 20% หากเป็นวันอื่นๆ ใช้คะแนนสะสมเท่ายอดซื้อรับส่วนลดเพิ่ม 12%
เลโก้ฉลองวันเด็ก 56
ตัวต่อเสริมทักษะเลโก้ ขอมอบความสุขให้กับคุณหนูๆ ที่รักจินตนาการและความคิดสร้างสร้างสรรค์ ด้วยของขวัญแสนพิเศษจากตัวต่อเสริมทักษะเลโก้กับส่วนลดสูงสุด 30% สำหรับสินค้าเคาน์เตอร์ปกติ ณ ห้างสรรพสินค้าที่ร่วมรายการทั่วประเทศ ในวันที่ 12-13 ม.ค.นี้ เพียง 2 วันเท่านั้น สินค้ามีจำนวนจำกัด คลิก www.brickthailand.com
ศูนย์การค้าเสริมไทยคอมเพล็กซ์
ร่วมกับเสริมไทยพลาซ่า จัดกิจกรรมวันเด็ก ในวันที่ 12 ม.ค.นี้ พบกิจกรรมมากมาย อาทิ การเล่นเกมแจกของรางวัล, การโชว์เครื่องบินเล็กจากชมรมเครื่องบินเล็ก, การแสดงของเด็กๆจากโรงเรียนต่างๆในเขตเทศบาลเมืองมหาสารคาม, การแข่งขันทานพิซซ่าจากร้าน, การประกวดแดนเซอร์บริการอาหารและเครื่องดื่มฟรีตลอดงาน
ศูนย์การค้าอิมพีเรียล เวิลด์ สำโรง
จัดโปรโมชั่นต้อนรับวันเด็ก “imperial World Kids Fun Fair” พบกับเสื้อผ้าและของใช้สำหรับเด็กจากแบรนด์ชั้นนำ อาทิ Disney Kids, Tom & Jerry, MTR Toys ในราคาลดสูงสุด 80% วันนี้-23 ม.ค.นี้.
ขอขอบคุณข้อมูล:ไทยรัฐออนไลน์ ลงวันที่ 12-01-2013 By CreditOnHand
เคทีซี พร้อมรบในทุกตลาด
เคทีซีชักธงรบธุรกิจบัตรเครดิตอัด 1,000 ล้านบาท ออกแคมเปญทุกสัปดาห์ ลั่นไม่มีเครื่องหมายดอกจัน
นายระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บัตรกรุงไทย (เคทีซี) เปิดเผยว่าในปีหน้าเคทีซีได้ตั้งงบการตลาดไว้ 1,000 ล้านบาท เพื่อกลับมารุกตลาดบัตรเครดิตอย่างเต็มที่ โดยตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค. 2556 เป็นต้นไป จะออกแคมเปญการตลาดเป็นรายสัปดาห์ เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต
“เคทีซีได้ล้างขาดทุนหมดแล้วใน 9 เดือนแรก ตลอดทั้งปีจะมีกำไร 100-200 ล้านบาท และในปีหน้าเมื่อกลับมาทำตลาดอย่างเต็มที่ เคทีซีจะมีกำไรเพิ่มขึ้นจากปีนี้มากกว่า 1 เท่าตัว” นายระเฑียร กล่าว
ทั้งนี้ แผนธุรกิจในปีหน้า เคทีซีตั้งเป้าหมายธุรกิจบัตรเครดิตมีอัตราการเติบโตสูงกว่า 10% โดยตั้งเป้าเพิ่มจำนวนบัตรเครดิตอีก 1.4-1.5 แสนบัตร ซึ่งจะทำให้ฐานบัตรเครดิตมีจำนวน 1.5-1.6 ล้านบัตร ส่วนยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตล่าสุดได้เพิ่มขึ้นเป็น 7,000-8,000 บาทต่อบัตรต่อเดือน หลังจากได้ยกเลิกบัตรเครดิตที่ไม่มียอดใช้จ่าย 3 แสนบัตร ในปีหน้าเมื่อกระตุ้นตลาดเต็มที่ ยอดใช้จ่ายจะเพิ่มขึ้นเป็น 8,500-9,000 บาทต่อบัตรต่อเดือน
ด้านธุรกิจสินเชื่อบุคคล เคทีซีตั้งเป้าเติบโตไว้ที่ 8% โดยในสิ้นเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา อยู่ที่ 1.2 หมื่นล้านบาท ในสิ้นปีนี้น่าจะอยู่ที่ 1.3 หมื่นล้านบาท และสิ้นปี 2556 จะขยับมาเป็น 1.4 หมื่นล้านบาท
“แคมเปญการตลาดหลังจากนี้จะเน้นการรับรีไฟแนนซ์ เปิดให้คนที่มีอยู่หลายสถาบันการเงินนำหนี้มาร่วมกันผ่อนชำระที่เคทีซี พร้อมให้อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า และจะไม่มีการออกแคมเปญกระตุ้นให้คนสร้างหนี้ และการทำการตลาดของเคทีซีนับจากนี้ต่อไป เคทีซีจะให้ลูกค้าแบบเต็มๆ ไม่มีข้อจำกัด และที่สำคัญจะไม่มีเงื่อนไข ไม่มีเครื่องหมายดอกจัน” นายระเทียร กล่าว
นายระเทียร กล่าวอีกว่า ในปีหน้าเชื่อว่าเศรษฐกิจจะยังดีต่อเนื่อง เพราะรัฐบาลยังใช้จ่ายเงินงบประมาณเป็นจำนวนมากเพื่อดำเนินโครงการต่างๆ และที่สำคัญการที่สหรัฐอเมริกาใช้นโยบายผ่อนคลายเชิงปริมาณ รอบที่ 3 (QE 3) ทำให้สภาพคล่องถูกอัดเข้ามาในระบบมากขึ้น โดยเฉพาในเอเชียและประเทศไทย ซึ่งเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจ ทำให้ภาคเอกชนไทยสามารถกู้เงินได้ในราคาถูก และจะมีภาคเอกชนไทยไปซื้อกิจการในต่างประเทศมากขึ้น
ขอขอบคุณข้อมูล: posttoday.com ลงวันที่ 8-12-12 By CreditOnHand
นายระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บัตรกรุงไทย (เคทีซี) เปิดเผยว่าในปีหน้าเคทีซีได้ตั้งงบการตลาดไว้ 1,000 ล้านบาท เพื่อกลับมารุกตลาดบัตรเครดิตอย่างเต็มที่ โดยตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค. 2556 เป็นต้นไป จะออกแคมเปญการตลาดเป็นรายสัปดาห์ เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต
“เคทีซีได้ล้างขาดทุนหมดแล้วใน 9 เดือนแรก ตลอดทั้งปีจะมีกำไร 100-200 ล้านบาท และในปีหน้าเมื่อกลับมาทำตลาดอย่างเต็มที่ เคทีซีจะมีกำไรเพิ่มขึ้นจากปีนี้มากกว่า 1 เท่าตัว” นายระเฑียร กล่าว
ทั้งนี้ แผนธุรกิจในปีหน้า เคทีซีตั้งเป้าหมายธุรกิจบัตรเครดิตมีอัตราการเติบโตสูงกว่า 10% โดยตั้งเป้าเพิ่มจำนวนบัตรเครดิตอีก 1.4-1.5 แสนบัตร ซึ่งจะทำให้ฐานบัตรเครดิตมีจำนวน 1.5-1.6 ล้านบัตร ส่วนยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตล่าสุดได้เพิ่มขึ้นเป็น 7,000-8,000 บาทต่อบัตรต่อเดือน หลังจากได้ยกเลิกบัตรเครดิตที่ไม่มียอดใช้จ่าย 3 แสนบัตร ในปีหน้าเมื่อกระตุ้นตลาดเต็มที่ ยอดใช้จ่ายจะเพิ่มขึ้นเป็น 8,500-9,000 บาทต่อบัตรต่อเดือน
ด้านธุรกิจสินเชื่อบุคคล เคทีซีตั้งเป้าเติบโตไว้ที่ 8% โดยในสิ้นเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา อยู่ที่ 1.2 หมื่นล้านบาท ในสิ้นปีนี้น่าจะอยู่ที่ 1.3 หมื่นล้านบาท และสิ้นปี 2556 จะขยับมาเป็น 1.4 หมื่นล้านบาท
“แคมเปญการตลาดหลังจากนี้จะเน้นการรับรีไฟแนนซ์ เปิดให้คนที่มีอยู่หลายสถาบันการเงินนำหนี้มาร่วมกันผ่อนชำระที่เคทีซี พร้อมให้อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า และจะไม่มีการออกแคมเปญกระตุ้นให้คนสร้างหนี้ และการทำการตลาดของเคทีซีนับจากนี้ต่อไป เคทีซีจะให้ลูกค้าแบบเต็มๆ ไม่มีข้อจำกัด และที่สำคัญจะไม่มีเงื่อนไข ไม่มีเครื่องหมายดอกจัน” นายระเทียร กล่าว
นายระเทียร กล่าวอีกว่า ในปีหน้าเชื่อว่าเศรษฐกิจจะยังดีต่อเนื่อง เพราะรัฐบาลยังใช้จ่ายเงินงบประมาณเป็นจำนวนมากเพื่อดำเนินโครงการต่างๆ และที่สำคัญการที่สหรัฐอเมริกาใช้นโยบายผ่อนคลายเชิงปริมาณ รอบที่ 3 (QE 3) ทำให้สภาพคล่องถูกอัดเข้ามาในระบบมากขึ้น โดยเฉพาในเอเชียและประเทศไทย ซึ่งเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจ ทำให้ภาคเอกชนไทยสามารถกู้เงินได้ในราคาถูก และจะมีภาคเอกชนไทยไปซื้อกิจการในต่างประเทศมากขึ้น
ขอขอบคุณข้อมูล: posttoday.com ลงวันที่ 8-12-12 By CreditOnHand
kbank
กสิกรฯ เดินหน้าออกแคมเปญกระตุ้นยอดปลายปี เปิดตัวบัตรเครดิต-เดบิต-สินเชื่อบุคคลสำหรับเอสเอ็มอี ภายใต้แนวคิด “ลด ยืด เพิ่ม” คาดมีบัตรใหม่ 2.75 แสนใบภายใน 1 ปี ยันคุณภาพลูกหนี้ยังดี
นายปกรณ์ พรรธนะแพทย์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (KBANK) เปิดเผยว่า ในช่วงที่เหลือของปีนี้ธนาคารจะยังคงเดินหน้าออกแคมเปญสินเชื่อรายย่อยอย่าง ต่อเนื่อง เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า เนื่องจากเป็นช่วงปลายปีที่เป็นเทศกาลแห่งการจับจ่ายใช้สอย โดยมั่นใจว่าจะสามารถดูแลคุณภาพของลูกหนี้ได้เป็นอย่างดี แม้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะส่งสัญญาณถึงความกังวลในการออกแคมเปญโฆษณากระตุ้นการใช้จ่ายและสินเชื่อ ของประชาชนในระยะหลังอย่างรุนแรง ซึ่งทางธนาคารยังไม่ได้รับเอกสารให้เข้าไปหารือในเรื่องดังกล่าวจาก ธปท.แต่อย่างใด
“ทุกอย่างยังคงปกติไม่ได้เปลี่ยนแผนการ เรื่องการออกโฆษณาแคมเปญต่างๆ ที่แบงก์ชาติออกมาเตือนนั้นคงจะเน้นไปที่กลุ่มนอนแบงก์มากกว่า และทางธนาคารเองก็เน้นที่กลุ่มลูกค้าที่มีรายได้ 15,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป โดยที่ผ่านมา ยังมีการผ่อนชำระปกติ”
เปิดแคมเปญเจาะกลุ่มเอสเอ็มอี
ล่าสุด ธนาคารได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ K-SME Card สำหรับลูกค้ากลุ่มเอสเอ็มอีที่อยู่ในช่วงเริ่มต้นธุรกิจ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพ และมีความต้องการด้านการเงินที่แตกต่างจากลูกค้ากลุ่มอื่น ยังไม่แยกการบริหารเงินในการดำเนินธุรกิจ และการเงินส่วนบุคคลออกจากกัน ภายใต้แนวคิด ลด ยืด เพิ่ม ประกอบด้วย บัตรเดบิตกสิกรไทยเพื่อผู้ประกอบการ (K-SME Debit Card) ที่ช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่ายของผู้ประกอบการสูงสุด 1 % เมื่อรูดใช้จ่ายผ่านบัตร พร้อมบริการแจ้งเตือนผ่านข้อความเอสเอ็มเอส หรืออีเมล ยืนยันทุกครั้งเมื่อมีการใช้จ่ายผ่านบัตร
บัตรเครดิตกสิกรไทยเพื่อผู้ประกอบการ (K-SME Credit Card) ลดต้นทุนของผู้ประกอบการด้วยอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 18% ต่อปี เป็นระยะเวลา 24 เดือน และรับคืนเงินเข้าบัตรเครดิต (Cash Back) สูงสุด 3-5% ทุกยอดการใช้จ่าย ณ สถานีบริการน้ำมันทั่วโลก และยืดระยะเวลาปลอดดอกเบี้ยนานสูงสุด 55 วัน และสินเชื่อเงินสดทันใจกสิกรไทยเพื่อผู้ประกอบการ (K-SME Express Cash) วงเงินสำรองฉุกเฉิน ลดอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 2% จากอัตราดอกเบี้ยปกติใน 2 ปีแรก และเพิ่มแผนคุ้มครองวงเงินโดยให้ความคุ้มครองยอดค่าใช้จ่ายค้างชำระสูงสุด 1 แสนบาท
ทั้งนี้ ธนาคารตั้งเป้ายอดรวมบัตรใหม่ K-SME Card ในปีแรก จำนวน 275,000 ใบ แบ่งเป็นบัตรเดบิตกสิกรไทยเพื่อผู้ประกอบการ (K-SME Debit Card) จำนวน 200,000 ใบ บัตรเครดิตกสิกรไทยเพื่อผู้ประกอบการ (K-SME Credit Card) จำนวน 50,000 ใบ และสินเชื่อเงินสดทันใจกสิกรไทยเพื่อผู้ประกอบการ (K-SME Express Cash) จำนวน 25,000 ใบ
ขอขอบคุณข้อมูล:manager.co.th ลงวันที่ 1-12-12 By CreditOnHand
นายปกรณ์ พรรธนะแพทย์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (KBANK) เปิดเผยว่า ในช่วงที่เหลือของปีนี้ธนาคารจะยังคงเดินหน้าออกแคมเปญสินเชื่อรายย่อยอย่าง ต่อเนื่อง เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า เนื่องจากเป็นช่วงปลายปีที่เป็นเทศกาลแห่งการจับจ่ายใช้สอย โดยมั่นใจว่าจะสามารถดูแลคุณภาพของลูกหนี้ได้เป็นอย่างดี แม้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะส่งสัญญาณถึงความกังวลในการออกแคมเปญโฆษณากระตุ้นการใช้จ่ายและสินเชื่อ ของประชาชนในระยะหลังอย่างรุนแรง ซึ่งทางธนาคารยังไม่ได้รับเอกสารให้เข้าไปหารือในเรื่องดังกล่าวจาก ธปท.แต่อย่างใด
“ทุกอย่างยังคงปกติไม่ได้เปลี่ยนแผนการ เรื่องการออกโฆษณาแคมเปญต่างๆ ที่แบงก์ชาติออกมาเตือนนั้นคงจะเน้นไปที่กลุ่มนอนแบงก์มากกว่า และทางธนาคารเองก็เน้นที่กลุ่มลูกค้าที่มีรายได้ 15,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป โดยที่ผ่านมา ยังมีการผ่อนชำระปกติ”
เปิดแคมเปญเจาะกลุ่มเอสเอ็มอี
ล่าสุด ธนาคารได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ K-SME Card สำหรับลูกค้ากลุ่มเอสเอ็มอีที่อยู่ในช่วงเริ่มต้นธุรกิจ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพ และมีความต้องการด้านการเงินที่แตกต่างจากลูกค้ากลุ่มอื่น ยังไม่แยกการบริหารเงินในการดำเนินธุรกิจ และการเงินส่วนบุคคลออกจากกัน ภายใต้แนวคิด ลด ยืด เพิ่ม ประกอบด้วย บัตรเดบิตกสิกรไทยเพื่อผู้ประกอบการ (K-SME Debit Card) ที่ช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่ายของผู้ประกอบการสูงสุด 1 % เมื่อรูดใช้จ่ายผ่านบัตร พร้อมบริการแจ้งเตือนผ่านข้อความเอสเอ็มเอส หรืออีเมล ยืนยันทุกครั้งเมื่อมีการใช้จ่ายผ่านบัตร
บัตรเครดิตกสิกรไทยเพื่อผู้ประกอบการ (K-SME Credit Card) ลดต้นทุนของผู้ประกอบการด้วยอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 18% ต่อปี เป็นระยะเวลา 24 เดือน และรับคืนเงินเข้าบัตรเครดิต (Cash Back) สูงสุด 3-5% ทุกยอดการใช้จ่าย ณ สถานีบริการน้ำมันทั่วโลก และยืดระยะเวลาปลอดดอกเบี้ยนานสูงสุด 55 วัน และสินเชื่อเงินสดทันใจกสิกรไทยเพื่อผู้ประกอบการ (K-SME Express Cash) วงเงินสำรองฉุกเฉิน ลดอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 2% จากอัตราดอกเบี้ยปกติใน 2 ปีแรก และเพิ่มแผนคุ้มครองวงเงินโดยให้ความคุ้มครองยอดค่าใช้จ่ายค้างชำระสูงสุด 1 แสนบาท
ทั้งนี้ ธนาคารตั้งเป้ายอดรวมบัตรใหม่ K-SME Card ในปีแรก จำนวน 275,000 ใบ แบ่งเป็นบัตรเดบิตกสิกรไทยเพื่อผู้ประกอบการ (K-SME Debit Card) จำนวน 200,000 ใบ บัตรเครดิตกสิกรไทยเพื่อผู้ประกอบการ (K-SME Credit Card) จำนวน 50,000 ใบ และสินเชื่อเงินสดทันใจกสิกรไทยเพื่อผู้ประกอบการ (K-SME Express Cash) จำนวน 25,000 ใบ
ขอขอบคุณข้อมูล:manager.co.th ลงวันที่ 1-12-12 By CreditOnHand
โฮมโปร” ทุ่ม 30 ล้าน กระตุ้นยอดรับหน้าหนาว
โฮมโปร” อัดงบ 30 ล้านบาท จัดแคมเปญ “HomePro Super Shock Sale” 26 พ.ย. – 23 ธ.ค. 55 รับสะใจเซอร์ไพส์ 3 ต่อ ลดสูงสุด 70% ช้อปครบรับฟรีสูงสุดทอง 1 บาท หรือ iPhone 5 พร้อมผนึกบัตรเครดิตกรุงศรี รับเครดิตคืนสูงสุด 20,000 บาท และร่วมกับพันธมิตรธนาคารอื่นๆ อีกเพียบ หวังดันยอดรับฤดูหนาว หลังกระแสช้อปโฮมโปรเอ็กซ์โปรไม่หยุด คาดปิดยอดขายได้กว่า 2,300 ล้านบาท
นายณัฏฐ์ จริตชนะ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กลุ่มการตลาด บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ “โฮมโปร” ผู้นำธุรกิจศูนย์รวมวัสดุและอุปกรณ์ตกแต่งบ้านครบวงจร กล่าวว่า เพื่อเป็นการบุกตลาดอย่างต่อเนื่อง ในการตอบสนองความต้องการสินค้าการตกแต่ง ปรับปรุง และซ่อมแซมบ้านให้แก่ลูกค้าทั่วประเทศ บริษัทฯ จึงใช้งบประมาณกว่า 30 ล้านบาท จัดรายการส่งเสริมการขาย “โฮมโปร ซูเปอร์ ช็อค เซลส์” ช็อคยิ่งกว่าช็อค ขึ้นระหว่างวันที่ 26 พฤศจิกายน ไปจนถึง 23 ธันวาม 2555 ณ โฮมโปร และโฮมโปร พลัส ทุกสาขา
โดยแคมเปญดังกล่าว ได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรผู้ร่วมค้าให้รับสะใจ เซอร์ไพส์ 3 ต่อ ต่อที่ 1 สินค้าราคาสุดพิเศษ ลดสูงสุด 70% ต่อที่ 2 ช้อปครบรับฟรี สำหรับสมาชิกโฮมการ์ด ช้อปครบ 30,000 บาท รับฟรี บัตรของขวัญโฮมโปร มูลค่า 600 บาท ช้อปครบ 60,000 บาท รับฟรี บัตรของขวัญโฮมโปร มูลค่า 2,000 บาท ช้อปครบ 100,000 บาท รับฟรี บัตรของขวัญโฮมโปร มูลค่า 5,000 บาท ช้อปครบ 300,000 บาท รับฟรี บัตรของขวัญโฮมโปร มูลค่า 18,000 บาท ช้อปครบ 450,000 บาท รับฟรี สร้อยคอรับทองคำหนัก 1 บาท มูลค่า 25,450 บาท หรือ i-Phone 5 สีขาว 16 GB มูลค่า 24,555 บาท และต่อที่ 3 รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 20,000 บาท เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตโฮมโปร วีซ่า และบัตรเครดิตกรุงศรี
นอกจากนี้ เมื่อลูกค้า ช้อปครบ 30,000 บาทขึ้นไป รับสิทธิ์แลกซื้อ กล้องถ่ายรูป Sumsung รุ่น EC-ST200 จากปกติ 6990 บาทในราคา 3,990 บาท หรือ จักรยานพับได้ 20 นิ้ว จากปกติ 4,590 บาทในราคา 2.500 บาท และเมื่อช้อปครบ 100,000 บาทขึ้นไป รับสิทธิ์แลกซื้อ LED Smart TV 50” Sumsung รุ่น UA50ES5600RXXT จากปกติ 49,990 บาท ในราคาเพียง 29,990 บาท
นายณัฏฐ์ กล่าวต่อว่า แคมเปญนี้ น่าจะช่วยแบ่งเบาภาระให้กับลูกค้าสำหรับการเตรียมตัวรับฤดูหนาวได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะเมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตโฮมโปร วีซ่า ยังจะได้รับส่วนลดเพิ่มอีก 3% ทุกชิ้นทุกแผนก หรือลูกค้าสามารถเลือกผ่อนชำระจากสถาบันการเงินที่ร่วมรายการ โดยรับส่วนลดสูงสุด 12% เมื่อผ่อนดอกเบี้ย 0% นาน 4 เดือน พร้อม เพิ่มสุขวันศุกร์ ถึงสิ้นเดือนธันวาคม ใช้คะแนนแทนความสุข ลดเพิ่มถึง 32.5%
“ด้วยความครบครันในเรื่องของสินค้า เครือข่ายสาขาที่มากที่สุดถึง 53 สาขาทั่วประเทศ และความคุ้มค่าจากโปรโมชั่นที่จัดขึ้น ทำให้เรามั่นใจว่า จะสามารถสร้างยอดขายได้จากแคมเปญนี้ไม่ต่ำกว่า 2,300 ล้านบาท” นายณัฏฐ์ กล่าวในที่สุด
ที่มา : stockwave.in.th/hot-news/28875--30-.html ลงวันที่ 24-11-2012 By CreditOnHand
นายณัฏฐ์ จริตชนะ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กลุ่มการตลาด บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ “โฮมโปร” ผู้นำธุรกิจศูนย์รวมวัสดุและอุปกรณ์ตกแต่งบ้านครบวงจร กล่าวว่า เพื่อเป็นการบุกตลาดอย่างต่อเนื่อง ในการตอบสนองความต้องการสินค้าการตกแต่ง ปรับปรุง และซ่อมแซมบ้านให้แก่ลูกค้าทั่วประเทศ บริษัทฯ จึงใช้งบประมาณกว่า 30 ล้านบาท จัดรายการส่งเสริมการขาย “โฮมโปร ซูเปอร์ ช็อค เซลส์” ช็อคยิ่งกว่าช็อค ขึ้นระหว่างวันที่ 26 พฤศจิกายน ไปจนถึง 23 ธันวาม 2555 ณ โฮมโปร และโฮมโปร พลัส ทุกสาขา
โดยแคมเปญดังกล่าว ได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรผู้ร่วมค้าให้รับสะใจ เซอร์ไพส์ 3 ต่อ ต่อที่ 1 สินค้าราคาสุดพิเศษ ลดสูงสุด 70% ต่อที่ 2 ช้อปครบรับฟรี สำหรับสมาชิกโฮมการ์ด ช้อปครบ 30,000 บาท รับฟรี บัตรของขวัญโฮมโปร มูลค่า 600 บาท ช้อปครบ 60,000 บาท รับฟรี บัตรของขวัญโฮมโปร มูลค่า 2,000 บาท ช้อปครบ 100,000 บาท รับฟรี บัตรของขวัญโฮมโปร มูลค่า 5,000 บาท ช้อปครบ 300,000 บาท รับฟรี บัตรของขวัญโฮมโปร มูลค่า 18,000 บาท ช้อปครบ 450,000 บาท รับฟรี สร้อยคอรับทองคำหนัก 1 บาท มูลค่า 25,450 บาท หรือ i-Phone 5 สีขาว 16 GB มูลค่า 24,555 บาท และต่อที่ 3 รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 20,000 บาท เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตโฮมโปร วีซ่า และบัตรเครดิตกรุงศรี
นอกจากนี้ เมื่อลูกค้า ช้อปครบ 30,000 บาทขึ้นไป รับสิทธิ์แลกซื้อ กล้องถ่ายรูป Sumsung รุ่น EC-ST200 จากปกติ 6990 บาทในราคา 3,990 บาท หรือ จักรยานพับได้ 20 นิ้ว จากปกติ 4,590 บาทในราคา 2.500 บาท และเมื่อช้อปครบ 100,000 บาทขึ้นไป รับสิทธิ์แลกซื้อ LED Smart TV 50” Sumsung รุ่น UA50ES5600RXXT จากปกติ 49,990 บาท ในราคาเพียง 29,990 บาท
นายณัฏฐ์ กล่าวต่อว่า แคมเปญนี้ น่าจะช่วยแบ่งเบาภาระให้กับลูกค้าสำหรับการเตรียมตัวรับฤดูหนาวได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะเมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตโฮมโปร วีซ่า ยังจะได้รับส่วนลดเพิ่มอีก 3% ทุกชิ้นทุกแผนก หรือลูกค้าสามารถเลือกผ่อนชำระจากสถาบันการเงินที่ร่วมรายการ โดยรับส่วนลดสูงสุด 12% เมื่อผ่อนดอกเบี้ย 0% นาน 4 เดือน พร้อม เพิ่มสุขวันศุกร์ ถึงสิ้นเดือนธันวาคม ใช้คะแนนแทนความสุข ลดเพิ่มถึง 32.5%
“ด้วยความครบครันในเรื่องของสินค้า เครือข่ายสาขาที่มากที่สุดถึง 53 สาขาทั่วประเทศ และความคุ้มค่าจากโปรโมชั่นที่จัดขึ้น ทำให้เรามั่นใจว่า จะสามารถสร้างยอดขายได้จากแคมเปญนี้ไม่ต่ำกว่า 2,300 ล้านบาท” นายณัฏฐ์ กล่าวในที่สุด
ที่มา : stockwave.in.th/hot-news/28875--30-.html ลงวันที่ 24-11-2012 By CreditOnHand
bbl
BBL รับจ่ายภาษีผ่านบัตรกระตุ้นยอด-เผย 10 เดือนโต 27%
แบงก์กรุงเทพฟุ้งยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต 10 เดือนแรก โตได้ 27% จาก 1.2 หมื่นบาทต่อใบ จาก 1 หมื่นบาท พร้อมเดินหน้าเพิ่มยอด ล่าสุด จับมือสรรพากรเปิดจ่ายภาษีด้วยบัตรเครดิต-เดบิต เสนอแบ่งชำระผ่านบัตร 10 เดือนฟรี ดบ. 3 เดือนแรก-สิทธิพิเศษใช้คะแนนแทนค่าภาษี
นายโชค ณ ระนอง ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้จัดการสายบัตรเครดิต ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BBL) เปิดเผยว่า ในช่วง 10 เดือนแรกที่ผ่านมาของปีนี้ ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตของธนาคารกรุงเทพเติบโตเพิ่มขึ้น 27% ซึ่งสูงกว่าภาพรวมของตลาด โดยมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรอยู่ที่ 12,000 บาทต่อบัตรต่อเดือน สูงขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนที่อยู่ในระดับ 10,000 บาทต่อบัตรต่อเดือน
“ธนาคารมีส่วนที่เป็นบัตรที่มีความเคลื่อนไหวสม่ำเสมอเป็นสัดส่วน 60% จากฐานบัตรทั้งหมด 1.3 ล้านบัตร โดยเป็นการจ่ายเต็มจำนวน 70% และผ่อนชำระ 30% ขณะที่อัตราการกดเงินสดไม่ได้เพิ่มขึ้น เนื่องจากกลุ่มลูกค้ามีความสามารถในการชำระเงินเต็มจำนวนเป็นสัดส่วนที่มากกว่า”
จับมือสรรพากรชำระภาษีผ่านบัตร
ล่าสุด ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BAY) ได้ร่วมลงนามกับนายสาธิต รังคสิริ อธิบดีกรมสรรพากร ในบันทึกความตกลงการให้บริการรับชำระภาษีสรรพากรด้วยบัตรเครดิตของธนาคารกรุงเทพ
นายโชคกล่าวว่า ธนาคารกรุงเทพได้รับความไว้วางใจจากกรมสรรพากรให้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาระบบการบริหารชำระภาษีด้วยบัตรเครดิต และบัตรเดบิตธนาคารกรุงเทพ เพื่ออำนวยความสะดวก และเพิ่มช่องทางการให้บริการแก่ลูกค้า ประชาชนในการชำระภาษีทุกประเภทโดยไม่เสียค่าธรรมเนียม ทั้งนี้ ลูกค้าผู้ถือบัตรเครดิตของธนาคารกรุงเทพสามาตถชำระภาษีได้โดยการชำระผ่านเครื่องรับบัตรเครดิตที่สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาในเขตกรุงเทพฯ ทั้ง 51 แห่ง การชำระภาษีผ่านระบบออนไลน์ของกรมสรรพากรได้ที่ www.rd.go.th และการชำระออนไลน์ผ่านทางเว็บไซต์ของธนาคารทางอินเทอร์เน็ตของธนาคารกรุงเทพ และด้วยระบบควบคุมความปลอดภัยในการใช้รหัสผ่านครั้งเดียวเพื่อยืนยันการทำรายการ
นอกจากนี้ ธนาคารได้มอบข้อเสนอพิเศษโปรแกรมแบ่งชำระ Be Smat On Call ผ่านบัตรเครดิตโดยมีระยะเวลาแบ่งชำระนานถึง 10 เดือน ฟรีดอกเบี้ย 3 เดือนแรก พร้อมด้วยเสนอบริการ Thank You Reward โดยลูกค้าสามารถใช้คะแนนสะสมในบัตรเครดิตทุก 1,000 คะแนน ชำระแทนค่าภาษีได้ 110 บาท และเปิดบริการรับชำระภาษีด้วยบัตร Tax Smart Card ซึ่งคิดค่าธรรมเนียมครั้งละ 15 บาท
นายสาธิต รังคสิริ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามยุทธศาสตร์ของกรมสรรพากรด้านการสร้างนวัตกรรมทางเทคโนโลยี เพื่อการบริหาร และการบริการเชิงรุก เพิ่มช่องทางใหม่ในการยื่นแบบแสดงรายการและชำระภาษี เพื่อให้ผู้เสียภาษีได้รับการบริการที่สะดวก และรวดเร็ว ซึ่งการร่วมมือกับธนาคารกรุงเทพในการรับชำระภาษีของกรมสรรพากรทุกประเภทด้วยบัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพนั้น สามารถใช้บริการได้ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.นี้เป็นต้นไป ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยให้การบริหารการจัดเก็บภาษีเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และคำนึงถึงสิทธิประโยชน์อันสูงสุดของผู้เสียภาษี
ขอขอบคุณข้อมูล:manager.co.th ลงวันที่ 27-10-2012 by creditonhand
แบงก์กรุงเทพฟุ้งยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต 10 เดือนแรก โตได้ 27% จาก 1.2 หมื่นบาทต่อใบ จาก 1 หมื่นบาท พร้อมเดินหน้าเพิ่มยอด ล่าสุด จับมือสรรพากรเปิดจ่ายภาษีด้วยบัตรเครดิต-เดบิต เสนอแบ่งชำระผ่านบัตร 10 เดือนฟรี ดบ. 3 เดือนแรก-สิทธิพิเศษใช้คะแนนแทนค่าภาษี
นายโชค ณ ระนอง ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้จัดการสายบัตรเครดิต ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BBL) เปิดเผยว่า ในช่วง 10 เดือนแรกที่ผ่านมาของปีนี้ ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตของธนาคารกรุงเทพเติบโตเพิ่มขึ้น 27% ซึ่งสูงกว่าภาพรวมของตลาด โดยมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรอยู่ที่ 12,000 บาทต่อบัตรต่อเดือน สูงขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนที่อยู่ในระดับ 10,000 บาทต่อบัตรต่อเดือน
“ธนาคารมีส่วนที่เป็นบัตรที่มีความเคลื่อนไหวสม่ำเสมอเป็นสัดส่วน 60% จากฐานบัตรทั้งหมด 1.3 ล้านบัตร โดยเป็นการจ่ายเต็มจำนวน 70% และผ่อนชำระ 30% ขณะที่อัตราการกดเงินสดไม่ได้เพิ่มขึ้น เนื่องจากกลุ่มลูกค้ามีความสามารถในการชำระเงินเต็มจำนวนเป็นสัดส่วนที่มากกว่า”
จับมือสรรพากรชำระภาษีผ่านบัตร
ล่าสุด ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BAY) ได้ร่วมลงนามกับนายสาธิต รังคสิริ อธิบดีกรมสรรพากร ในบันทึกความตกลงการให้บริการรับชำระภาษีสรรพากรด้วยบัตรเครดิตของธนาคารกรุงเทพ
นายโชคกล่าวว่า ธนาคารกรุงเทพได้รับความไว้วางใจจากกรมสรรพากรให้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาระบบการบริหารชำระภาษีด้วยบัตรเครดิต และบัตรเดบิตธนาคารกรุงเทพ เพื่ออำนวยความสะดวก และเพิ่มช่องทางการให้บริการแก่ลูกค้า ประชาชนในการชำระภาษีทุกประเภทโดยไม่เสียค่าธรรมเนียม ทั้งนี้ ลูกค้าผู้ถือบัตรเครดิตของธนาคารกรุงเทพสามาตถชำระภาษีได้โดยการชำระผ่านเครื่องรับบัตรเครดิตที่สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาในเขตกรุงเทพฯ ทั้ง 51 แห่ง การชำระภาษีผ่านระบบออนไลน์ของกรมสรรพากรได้ที่ www.rd.go.th และการชำระออนไลน์ผ่านทางเว็บไซต์ของธนาคารทางอินเทอร์เน็ตของธนาคารกรุงเทพ และด้วยระบบควบคุมความปลอดภัยในการใช้รหัสผ่านครั้งเดียวเพื่อยืนยันการทำรายการ
นอกจากนี้ ธนาคารได้มอบข้อเสนอพิเศษโปรแกรมแบ่งชำระ Be Smat On Call ผ่านบัตรเครดิตโดยมีระยะเวลาแบ่งชำระนานถึง 10 เดือน ฟรีดอกเบี้ย 3 เดือนแรก พร้อมด้วยเสนอบริการ Thank You Reward โดยลูกค้าสามารถใช้คะแนนสะสมในบัตรเครดิตทุก 1,000 คะแนน ชำระแทนค่าภาษีได้ 110 บาท และเปิดบริการรับชำระภาษีด้วยบัตร Tax Smart Card ซึ่งคิดค่าธรรมเนียมครั้งละ 15 บาท
นายสาธิต รังคสิริ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามยุทธศาสตร์ของกรมสรรพากรด้านการสร้างนวัตกรรมทางเทคโนโลยี เพื่อการบริหาร และการบริการเชิงรุก เพิ่มช่องทางใหม่ในการยื่นแบบแสดงรายการและชำระภาษี เพื่อให้ผู้เสียภาษีได้รับการบริการที่สะดวก และรวดเร็ว ซึ่งการร่วมมือกับธนาคารกรุงเทพในการรับชำระภาษีของกรมสรรพากรทุกประเภทด้วยบัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพนั้น สามารถใช้บริการได้ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.นี้เป็นต้นไป ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยให้การบริหารการจัดเก็บภาษีเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และคำนึงถึงสิทธิประโยชน์อันสูงสุดของผู้เสียภาษี
ขอขอบคุณข้อมูล:manager.co.th ลงวันที่ 27-10-2012 by creditonhand
ดิ เอเชี่ยน แบงเกอร์
ดิ เอเชียน แบงเกอร์ (The Asian Banker) มอบรางวัลการวิเคราะห์ข้อมูลยอดเยี่ยม (Best Data Analysis Award) ให้กับศูนย์บัตรเครดิตของธนาคาร ไชน่า หมินเซิง จำกัด หรือ ซีเอ็มบีซี (China Minsheng Banking Corp Ltd.: CMBC) โดยธนาคารซีเอ็มบีซีได้ทำงานร่วมกับบริษัท แซส ผู้นำด้านการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงธุรกิจ ในการปรับใช้ระบบการบริหารจัดการและการวิเคราะห์แบบ 360 องศาสำหรับมุมมองด้านลูกค้า (360-degree Analysis and Management System for Customer Perspective) โดยพิธีมอบรางวัลของ ดิ เอเชียน แบงเกอร์ จัดขึ้นในกรุงเทพฯ ซึ่งได้รวมนักการธนาคารจากทั่วทั้งภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิกเพื่อแลกเปลี่ยนและแบ่งปันประสบการณ์ระหว่างกัน
การแข่งขันมีผู้เข้าร่วมจากธนาคารและองค์กรทางการเงินประมาณ 50 แห่งจากหลายสิบประเทศ ในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก ซึ่งศูนย์บัตรเครดิตซีเอ็มบีซีและแซสมีความโดดเด่นอย่างมากในประเภทแอพพลิเค ชั่นและการวิเคราะห์ข้อมูล โดยรางวัลนี้มอบให้กับองค์กรที่มีนวัตกรรมและได้รับการยอมรับอย่างสูง
ทั้งนี้จะเห็นได้ว่าในแวดวงการธนาคารนั้น การบริหารจัดการด้านคุณภาพและการตัดสินใจเชิงวิเคราะห์มีความเกี่ยวข้องโดย ตรงกับความสามารถด้านการจัดการและการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า การตัดสินใจทางธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพจะขึ้นอยู่กับการวิเคราะห์ข้อมูล ขั้นสูงเป็นสำคัญ และการใช้ซอฟต์แวร์ของ SAS® ได้ช่วยให้ศูนย์บัตรเครดิตซีเอ็มบีซีสามารถเข้าใจลูกค้าและสร้างสมดุลในการ จัดการความเสี่ยงและการขยายธุรกิจให้สอดคล้องกับระบบการจัดการและการ วิเคราะห์แบบ 360 องศา
สำหรับมุมมองด้านลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ศูนย์บัตรเครดิตดังกล่าวนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่มีลักษณะเฉพาะสำหรับ ลูกค้าโดยพิจารณาจากรายละเอียด(Profile) และความชอบ (Preference) ของลูกค้า จากนั้น ซีเอ็มบีซีก็จะให้คะแนนและติดตามความเสี่ยงด้านเครดิตเพื่อลดความเสี่ยงทาง ธุรกิจได้อย่างถูกต้องแม่นยำยิ่งขึ้นและเพิ่มการขายแบบต่อเนื่อง (Cross Selling) รวมทั้งเดินหน้าทำกำไรได้อย่างสูงสุด พร้อมทั้งปรับปรุงบริการได้ดียิ่งขึ้นเรื่อยๆ
“เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ทำงานร่วมกับแซสจนได้รับรางวัลการวิเคราะห์ ข้อมูลยอดเยี่ยม (Best Data Analysis Award) จาก ดิ เอเชียน แบงเกอร์” นายหยาง เก้ ประธานศูนย์บัตรเครดิตซีเอ็มบีซี กล่าว และว่า “เราให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการสร้างสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับลูกค้าของเรา เพื่อให้เกิดบริการที่ดียิ่งขึ้น โดยระบบ 360 องศาได้เข้ามาช่วยเพิ่มความสามารถในด้านการตัดสินใจตามหลักวิทยาศาสตร์บนฐาน ข้อเท็จจริงและสนับสนุนให้เกิดโปรแกรมที่ดียิ่งขึ้นสำหรับลูกค้าของเรา เมื่อใช้แซส เราสามารถให้บริการแบบเฉพาะตัวกับผู้ถือบัตรเครดิตได้มากขึ้น ซึ่งเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับลูกค้าและสร้างผลตอบแทนสำหรับผู้ถือหุ้นได้ เพิ่มขึ้นด้วย”
นายคลิฟ วู ประธานของบริษัท แซส เกรทเทอร์ ไชน่า กล่าวว่า “ระบบการจัดการและการวิเคราะห์แบบ 360 องศาสำหรับมุมมองด้านลูกค้าที่ซีเอ็มบีซีใช้อยู่นั้น ได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่ธนาคารของจีนแห่งนี้กำลังพยายามทำความเข้า ใจลูกค้าของตนอย่างเต็มที่ และความพยายามดังกล่าวบรรลุผลด้วยความช่วยเหลือจากบริษัท แซส ด้วยการผสานรวมความสามารถด้านเทคนิค ประสบการณ์ด้านการวิเคราะห์ลูกค้าและระบบการตลาดอัตโนมัติ ตลอดจนความเป็นผู้นำระดับโลก ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่งที่ซีเอ็มบีซีและแซสประสบความสำเร็จ ในด้านการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ได้อย่างดีเยี่ยม”
“บริษัท แซส ซึ่งเป็นผู้นำในตลาดซอฟต์แวร์และบริการด้านการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงธุรกิจ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตัดสินใจบนพื้นฐานของข้อเท็จจริงได้อย่างถูกต้องและรวด เร็ว ทำให้เกิดการสร้างนวัตกรรมที่สนับสนุนการขยายตัวของธุรกิจและการจัดการอย่าง มีประสิทธิภาพได้โดยง่าย โดยแซสช่วยให้องค์กรทั่วโลกสามารถตอบสนองความต้องการด้านการวิเคราะห์ข้อมูล และระบบธุรกิจอัจฉริยะ (Business Intelligence) ได้ อย่างเห็นได้ชัด โดยจะเห็นได้ว่ามีการปรับใช้โซลูชั่นของแซสอย่างแพร่หลายและเป็นการปรับใช้ ขนาดใหญ่จำนวนมากในธุรกิจธนาคารของจีน และยังได้กลายเป็นแพลตฟอร์มมาตรฐานระดับองค์กรสำหรับการ ทำเหมืองข้อมูล (Data Mining) และการวิเคราะห์ข้อมูลอีกด้วย แพลตฟอร์มนี้ช่วยผู้ใช้สามารถสนับสนุนแอพพลิเคชั่นที่สำคัญต่างๆ โดยอาศัยการวิเคราะห์ทางธุรกิจ ระบบวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าอัจฉริยะ และการจัดการความเสี่ยงที่ครอบคลุม”
เกี่ยวกับศูนย์บัตรเครดิตซีเอ็มบีซี
ศูนย์บัตรเครดิตซีเอ็มบีซีเป็นธุรกิจในเครือของธนาคาร ไชน่า หมินเซิง ประเทศจีน จำกัด หรือ ซีเอ็มบีซี มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในกรุงปักกิ่ง ให้การสนับสนุนสาขาที่ตั้งอยู่ใน 67 เมืองทั่วประเทศ โดยเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2548 ศูนย์บัตรเครดิตซีเอ็มบีซีได้ออกบัตรเครดิตหมินเซิงขึ้นเป็นครั้งแรกที่ หอมหาสมาคมประชาชน (Great Hall of the People) ในกรุงปักกิ่ง และขณะนี้มีการออกบัตรเครดิตไปแล้วประมาณ 13 ล้านใบ โดยตลอดระยะเวลา 7 ปีในการขยายตัวของธุรกิจ บัตรเครดิตหมินเซิงได้พัฒนาแบรนด์ให้มีความเชื่อมโยงกับแฟชั่น ความมีชีวิตชีวา นวัตกรรม และผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียมให้กับลูกค้ามาโดยตลอดในรูปของผลิตภัณฑ์และนวัต กรรมทางการตลาดที่มีให้เลือกใช้บริการเป็นจำนวนมาก รวมถึงการให้บริการลูกค้าที่เหนือกว่าคู่แข่งในตลาดอีกด้วย
เกี่ยวกับบริษัท แซส
บริษัท แซส เป็นผู้นำในตลาดซอฟต์แวร์และบริการด้านการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงธุรกิจ (Business Analytics) ด้วยโซลูชั่นเชิงนวัตกรรมที่ให้ลูกค้าในรูปของIntegrated Framework ทำให้บริษัท แซส สามารถช่วยลูกค้าเพิ่มประสิทธิภาพและมูลค่าผ่านการตัดสินใจทางธุรกิจที่ดี และรวดเร็วขึ้น สำหรับจำนวนลูกค้าที่ได้นำโซลูชั่นของแซสไปใช้แล้วนั้นมีมากกว่า 60,000 แห่งทั่วโลก และนับตั้งแต่ปี 2519 เป็นต้นมา แซสเดินหน้าอย่างมุ่งมั่นในการเป็น “พลังแห่งการรอบรู้” (The Power to Know®) สำหรับลูกค้าทั่วโลก
ขอขอบคุณข้อมูล: thannews.th.com ลงวันที่ 06-10-2012 by Credit”OnHand
การแข่งขันมีผู้เข้าร่วมจากธนาคารและองค์กรทางการเงินประมาณ 50 แห่งจากหลายสิบประเทศ ในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก ซึ่งศูนย์บัตรเครดิตซีเอ็มบีซีและแซสมีความโดดเด่นอย่างมากในประเภทแอพพลิเค ชั่นและการวิเคราะห์ข้อมูล โดยรางวัลนี้มอบให้กับองค์กรที่มีนวัตกรรมและได้รับการยอมรับอย่างสูง
ทั้งนี้จะเห็นได้ว่าในแวดวงการธนาคารนั้น การบริหารจัดการด้านคุณภาพและการตัดสินใจเชิงวิเคราะห์มีความเกี่ยวข้องโดย ตรงกับความสามารถด้านการจัดการและการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า การตัดสินใจทางธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพจะขึ้นอยู่กับการวิเคราะห์ข้อมูล ขั้นสูงเป็นสำคัญ และการใช้ซอฟต์แวร์ของ SAS® ได้ช่วยให้ศูนย์บัตรเครดิตซีเอ็มบีซีสามารถเข้าใจลูกค้าและสร้างสมดุลในการ จัดการความเสี่ยงและการขยายธุรกิจให้สอดคล้องกับระบบการจัดการและการ วิเคราะห์แบบ 360 องศา
สำหรับมุมมองด้านลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ศูนย์บัตรเครดิตดังกล่าวนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่มีลักษณะเฉพาะสำหรับ ลูกค้าโดยพิจารณาจากรายละเอียด(Profile) และความชอบ (Preference) ของลูกค้า จากนั้น ซีเอ็มบีซีก็จะให้คะแนนและติดตามความเสี่ยงด้านเครดิตเพื่อลดความเสี่ยงทาง ธุรกิจได้อย่างถูกต้องแม่นยำยิ่งขึ้นและเพิ่มการขายแบบต่อเนื่อง (Cross Selling) รวมทั้งเดินหน้าทำกำไรได้อย่างสูงสุด พร้อมทั้งปรับปรุงบริการได้ดียิ่งขึ้นเรื่อยๆ
“เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ทำงานร่วมกับแซสจนได้รับรางวัลการวิเคราะห์ ข้อมูลยอดเยี่ยม (Best Data Analysis Award) จาก ดิ เอเชียน แบงเกอร์” นายหยาง เก้ ประธานศูนย์บัตรเครดิตซีเอ็มบีซี กล่าว และว่า “เราให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการสร้างสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับลูกค้าของเรา เพื่อให้เกิดบริการที่ดียิ่งขึ้น โดยระบบ 360 องศาได้เข้ามาช่วยเพิ่มความสามารถในด้านการตัดสินใจตามหลักวิทยาศาสตร์บนฐาน ข้อเท็จจริงและสนับสนุนให้เกิดโปรแกรมที่ดียิ่งขึ้นสำหรับลูกค้าของเรา เมื่อใช้แซส เราสามารถให้บริการแบบเฉพาะตัวกับผู้ถือบัตรเครดิตได้มากขึ้น ซึ่งเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับลูกค้าและสร้างผลตอบแทนสำหรับผู้ถือหุ้นได้ เพิ่มขึ้นด้วย”
นายคลิฟ วู ประธานของบริษัท แซส เกรทเทอร์ ไชน่า กล่าวว่า “ระบบการจัดการและการวิเคราะห์แบบ 360 องศาสำหรับมุมมองด้านลูกค้าที่ซีเอ็มบีซีใช้อยู่นั้น ได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่ธนาคารของจีนแห่งนี้กำลังพยายามทำความเข้า ใจลูกค้าของตนอย่างเต็มที่ และความพยายามดังกล่าวบรรลุผลด้วยความช่วยเหลือจากบริษัท แซส ด้วยการผสานรวมความสามารถด้านเทคนิค ประสบการณ์ด้านการวิเคราะห์ลูกค้าและระบบการตลาดอัตโนมัติ ตลอดจนความเป็นผู้นำระดับโลก ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่งที่ซีเอ็มบีซีและแซสประสบความสำเร็จ ในด้านการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ได้อย่างดีเยี่ยม”
“บริษัท แซส ซึ่งเป็นผู้นำในตลาดซอฟต์แวร์และบริการด้านการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงธุรกิจ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตัดสินใจบนพื้นฐานของข้อเท็จจริงได้อย่างถูกต้องและรวด เร็ว ทำให้เกิดการสร้างนวัตกรรมที่สนับสนุนการขยายตัวของธุรกิจและการจัดการอย่าง มีประสิทธิภาพได้โดยง่าย โดยแซสช่วยให้องค์กรทั่วโลกสามารถตอบสนองความต้องการด้านการวิเคราะห์ข้อมูล และระบบธุรกิจอัจฉริยะ (Business Intelligence) ได้ อย่างเห็นได้ชัด โดยจะเห็นได้ว่ามีการปรับใช้โซลูชั่นของแซสอย่างแพร่หลายและเป็นการปรับใช้ ขนาดใหญ่จำนวนมากในธุรกิจธนาคารของจีน และยังได้กลายเป็นแพลตฟอร์มมาตรฐานระดับองค์กรสำหรับการ ทำเหมืองข้อมูล (Data Mining) และการวิเคราะห์ข้อมูลอีกด้วย แพลตฟอร์มนี้ช่วยผู้ใช้สามารถสนับสนุนแอพพลิเคชั่นที่สำคัญต่างๆ โดยอาศัยการวิเคราะห์ทางธุรกิจ ระบบวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าอัจฉริยะ และการจัดการความเสี่ยงที่ครอบคลุม”
เกี่ยวกับศูนย์บัตรเครดิตซีเอ็มบีซี
ศูนย์บัตรเครดิตซีเอ็มบีซีเป็นธุรกิจในเครือของธนาคาร ไชน่า หมินเซิง ประเทศจีน จำกัด หรือ ซีเอ็มบีซี มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในกรุงปักกิ่ง ให้การสนับสนุนสาขาที่ตั้งอยู่ใน 67 เมืองทั่วประเทศ โดยเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2548 ศูนย์บัตรเครดิตซีเอ็มบีซีได้ออกบัตรเครดิตหมินเซิงขึ้นเป็นครั้งแรกที่ หอมหาสมาคมประชาชน (Great Hall of the People) ในกรุงปักกิ่ง และขณะนี้มีการออกบัตรเครดิตไปแล้วประมาณ 13 ล้านใบ โดยตลอดระยะเวลา 7 ปีในการขยายตัวของธุรกิจ บัตรเครดิตหมินเซิงได้พัฒนาแบรนด์ให้มีความเชื่อมโยงกับแฟชั่น ความมีชีวิตชีวา นวัตกรรม และผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียมให้กับลูกค้ามาโดยตลอดในรูปของผลิตภัณฑ์และนวัต กรรมทางการตลาดที่มีให้เลือกใช้บริการเป็นจำนวนมาก รวมถึงการให้บริการลูกค้าที่เหนือกว่าคู่แข่งในตลาดอีกด้วย
เกี่ยวกับบริษัท แซส
บริษัท แซส เป็นผู้นำในตลาดซอฟต์แวร์และบริการด้านการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงธุรกิจ (Business Analytics) ด้วยโซลูชั่นเชิงนวัตกรรมที่ให้ลูกค้าในรูปของIntegrated Framework ทำให้บริษัท แซส สามารถช่วยลูกค้าเพิ่มประสิทธิภาพและมูลค่าผ่านการตัดสินใจทางธุรกิจที่ดี และรวดเร็วขึ้น สำหรับจำนวนลูกค้าที่ได้นำโซลูชั่นของแซสไปใช้แล้วนั้นมีมากกว่า 60,000 แห่งทั่วโลก และนับตั้งแต่ปี 2519 เป็นต้นมา แซสเดินหน้าอย่างมุ่งมั่นในการเป็น “พลังแห่งการรอบรู้” (The Power to Know®) สำหรับลูกค้าทั่วโลก
ขอขอบคุณข้อมูล: thannews.th.com ลงวันที่ 06-10-2012 by Credit”OnHand
กรุงศรีจับมือเอไอเอ ประเทศไทย เปิดตัวเทดโนโลยีชำระเงินใหม่ล่าสุเ
กรุงศรีจับมือเอไอเอ ประเทศไทย เปิดตัวเทคโนโลยีชำระเงินใหม่ล่าสุด สำหรับตัวแทนประกันชีวิตเอไอเอทั่วประเทศ
นำเสนอนวัตกรรมชำระเงินรูปแบบใหม่สำหรับธุรกิจประกันชีวิตในไทย
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ร่วมกับเอไอเอ ประเทศไทย วันนี้ประกาศเปิดตัวเทคโนโลยีชำระเงินรูปแบบใหม่ ‘กรุงศรี ควิก เพย์’ ซึ่งจะเปลี่ยนสมาร์ทโฟนและ แท็บเล็ตให้เป็นจุดรับชำระเงิน (Mobile Point of Sale – mPOS) ทุกที่ทุกเวลา โดยเทคโนโลยีดังกล่าวจะมอบความสะดวกและคล่องตัว พร้อมความปลอดภัยสูงสุดให้กับลูกค้าเอไอเอในการชำระเบี้ยประกันภัยด้วยบัตร เครดิตในเครือธนาคารกรุงศรีผ่านตัวแทนประกันชีวิตเอไอเอทั่วประเทศ
มร. ฟิลิป แทน ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า “การเปิดตัว ‘กรุงศรี ควิก เพย์’ ถือเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ธนาคารที่มุ่งเป็นผู้นำในการเสนอเทคโนโลยีทางการ เงินที่มอบความสะดวกและคล่องตัว พร้อมสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ในช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-channel) ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว เช่น อินเทอร์เน็ต และโทรศัพท์มือถือ ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าจะมีการใช้จ่ายผ่านบัตรรวมมูลค่าสูงประมาณ 207,000 ล้านบาทในปี 2558”
“เอไอเอ ประเทศไทยถือเป็นพันธมิตรรายแรกของธนาคารที่จะนำเทคโนโลยีดังกล่าวไปใช้ผ่าน ตัวแทนประกันชีวิตเอไอเอทั่วประเทศ ธนาคารยังมุ่งให้บริการชำระเงินดังกล่าวแก่ธุรกิจขนาดใหญ่และขนาดกลางที่มี บริการจัดส่ง (Delivery) โลจิสติกส์ ธุรกิจขายตรง โรงแรม และร้านอาหาร” มร. ฟิลิป กล่าว
มร. รอน แวน โอเยน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอ ประเทศไทย เผยว่า “ความร่วมมือในครั้งนี้ทำให้ เอไอเอ เพิ่มขีดความสามารถในการอำนวยความสะดวก รวมถึงมอบความมั่นใจในความปลอดภัยให้กับตัวแทนประกันชีวิตและลูกค้าผู้ถือ กรมธรรม์ไปอีกขั้น จากจำนวนผู้ใช้สมาร์ทโฟนและอุปกรณ์พกพาแบบแท็บเล็ตที่เพิ่มขึ้นตลอดเวลาใน ประเทศไทย เราจึงมุ่งให้บริการล่าสุดนี้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกของช่องทางการชำระเบี้ย ประกันภัยที่ง่ายดาย รวดเร็ว และสามารถขยายสู่วงกว้างได้ เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดตรงนี้ที่เติบโตขึ้น อีกทั้งยังเป็นการเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ อีกด้วย
เอไอเอเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่านวัตกรรมช่องทางใหม่ดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ แก่เหล่าตัวแทนประกันชีวิตของเราในการเก็บข้อมูลได้อย่างถูกต้องแม่นยำ และทำธุรกรรมได้อย่างครบวงจรและปลอดภัยในขั้นตอนเดียว ด้านลูกค้าผู้ถือกรมธรรม์เองก็ได้รับประโยชน์ด้านความยืดหยุ่นในการจัดการ เรื่องการเงินอันเนื่องมาจากการชำระเงินผ่านบัตรเครดิต”
‘กรุงศรี ควิก เพย์’ เป็นเทคโนโลยีรับชำระเงินซึ่งจะเปลี่ยนสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตให้เป็นจุดรับ บัตรเพียงเสียบเครื่องอ่านข้อมูลบัตร (card reader) เข้ากับสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต และคีย์ข้อมูลที่จำเป็นในการชำระเงินผ่าน แอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน ทำให้สามารถรับชำระเงินด้วยบัตรเครดิตในเครือ กรุงศรีได้ทุกที่ทุกเวลา ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยวีซ่า ผู้ให้บริการด้านเครือข่ายชำระเงินระดับโลก และ สวิฟฟ์ เทคโนโลยีเพื่อการชำระเงินผ่านระบบโทรศัพท์มือถือจากเอสซีซีพี กรุ๊ป ที่มุ่งสนับสนุนร้านค้า ให้สามารถรับชำระเงินด้วยบัตรเครดิตผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่พร้อมความปลอดภัย ขั้นสูง
ขอขอบคุณข้อมูล: newswit.com ลงวันที่ 29-09-2012 by CreditOnhand
นำเสนอนวัตกรรมชำระเงินรูปแบบใหม่สำหรับธุรกิจประกันชีวิตในไทย
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ร่วมกับเอไอเอ ประเทศไทย วันนี้ประกาศเปิดตัวเทคโนโลยีชำระเงินรูปแบบใหม่ ‘กรุงศรี ควิก เพย์’ ซึ่งจะเปลี่ยนสมาร์ทโฟนและ แท็บเล็ตให้เป็นจุดรับชำระเงิน (Mobile Point of Sale – mPOS) ทุกที่ทุกเวลา โดยเทคโนโลยีดังกล่าวจะมอบความสะดวกและคล่องตัว พร้อมความปลอดภัยสูงสุดให้กับลูกค้าเอไอเอในการชำระเบี้ยประกันภัยด้วยบัตร เครดิตในเครือธนาคารกรุงศรีผ่านตัวแทนประกันชีวิตเอไอเอทั่วประเทศ
มร. ฟิลิป แทน ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า “การเปิดตัว ‘กรุงศรี ควิก เพย์’ ถือเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ธนาคารที่มุ่งเป็นผู้นำในการเสนอเทคโนโลยีทางการ เงินที่มอบความสะดวกและคล่องตัว พร้อมสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ในช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-channel) ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว เช่น อินเทอร์เน็ต และโทรศัพท์มือถือ ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าจะมีการใช้จ่ายผ่านบัตรรวมมูลค่าสูงประมาณ 207,000 ล้านบาทในปี 2558”
“เอไอเอ ประเทศไทยถือเป็นพันธมิตรรายแรกของธนาคารที่จะนำเทคโนโลยีดังกล่าวไปใช้ผ่าน ตัวแทนประกันชีวิตเอไอเอทั่วประเทศ ธนาคารยังมุ่งให้บริการชำระเงินดังกล่าวแก่ธุรกิจขนาดใหญ่และขนาดกลางที่มี บริการจัดส่ง (Delivery) โลจิสติกส์ ธุรกิจขายตรง โรงแรม และร้านอาหาร” มร. ฟิลิป กล่าว
มร. รอน แวน โอเยน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอ ประเทศไทย เผยว่า “ความร่วมมือในครั้งนี้ทำให้ เอไอเอ เพิ่มขีดความสามารถในการอำนวยความสะดวก รวมถึงมอบความมั่นใจในความปลอดภัยให้กับตัวแทนประกันชีวิตและลูกค้าผู้ถือ กรมธรรม์ไปอีกขั้น จากจำนวนผู้ใช้สมาร์ทโฟนและอุปกรณ์พกพาแบบแท็บเล็ตที่เพิ่มขึ้นตลอดเวลาใน ประเทศไทย เราจึงมุ่งให้บริการล่าสุดนี้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกของช่องทางการชำระเบี้ย ประกันภัยที่ง่ายดาย รวดเร็ว และสามารถขยายสู่วงกว้างได้ เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดตรงนี้ที่เติบโตขึ้น อีกทั้งยังเป็นการเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ อีกด้วย
เอไอเอเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่านวัตกรรมช่องทางใหม่ดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ แก่เหล่าตัวแทนประกันชีวิตของเราในการเก็บข้อมูลได้อย่างถูกต้องแม่นยำ และทำธุรกรรมได้อย่างครบวงจรและปลอดภัยในขั้นตอนเดียว ด้านลูกค้าผู้ถือกรมธรรม์เองก็ได้รับประโยชน์ด้านความยืดหยุ่นในการจัดการ เรื่องการเงินอันเนื่องมาจากการชำระเงินผ่านบัตรเครดิต”
‘กรุงศรี ควิก เพย์’ เป็นเทคโนโลยีรับชำระเงินซึ่งจะเปลี่ยนสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตให้เป็นจุดรับ บัตรเพียงเสียบเครื่องอ่านข้อมูลบัตร (card reader) เข้ากับสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต และคีย์ข้อมูลที่จำเป็นในการชำระเงินผ่าน แอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน ทำให้สามารถรับชำระเงินด้วยบัตรเครดิตในเครือ กรุงศรีได้ทุกที่ทุกเวลา ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยวีซ่า ผู้ให้บริการด้านเครือข่ายชำระเงินระดับโลก และ สวิฟฟ์ เทคโนโลยีเพื่อการชำระเงินผ่านระบบโทรศัพท์มือถือจากเอสซีซีพี กรุ๊ป ที่มุ่งสนับสนุนร้านค้า ให้สามารถรับชำระเงินด้วยบัตรเครดิตผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่พร้อมความปลอดภัย ขั้นสูง
ขอขอบคุณข้อมูล: newswit.com ลงวันที่ 29-09-2012 by CreditOnhand
กสิกรไทยเปิดตัวบัตรเครดิตรูปแบบใหม่
(17ก.ย.2555) - กสิกรไทย เปิดตัวบัตรเครดิตโฉมใหม่ พร้อมออกแคมเปญ “พิเศษเสมอทั่วโลก กิน บินเที่ยว เหนือระดับรับเงินคืน 15%” เมื่อใช้จ่ายในร้านอาหาร โรงแรม สายการบินทั่วโลก ตั้งเป้าสิ้นปี 55 มียอดผู้ถือบัตรเครดิตกสิกรไทย 2.5 ล้านบัตร ยอดใช้จ่ายผ่านบัตร 205,000 ล้านบาท ยึดอันดับหนึ่งยอดใช้จ่ายผ่านบัตรต่อเนื่อง
นายชาติชาย พยุหนาวีชัย รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดบัตรเครดิตทั้งประเทศสิ้นปี 2554 มีจำนวนผู้ถือบัตรเครดิตทั้งสิ้น 15.3 ล้านใบ และคาดว่าสิ้นปี 2555 จะเพิ่มขึ้นเป็น 16.7 ล้านใบ ขณะที่จำนวนผู้ถือบัตรเครดิตกสิกรไทยปัจจุบันอยู่ที่ 2.37 ล้านใบ และมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต ณ สิ้นสิงหาคม 2555 จำนวนกว่า 119,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 30% ซึ่งคาดว่าสิ้นปีนี้จะมีจำนวนผู้ถือบัตรเครดิตกสิกรไทยเพิ่มเป็น 2.5 ล้านใบ มียอดใช้จ่ายผ่านบัตร 205,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 36% ทำให้บัตรเครดิตกสิกรไทยยังคงเป็นบัตรเครดิตที่ลูกค้าให้ความไว้วางใจและใช้ จ่ายผ่านบัตรมากที่สุด
ทั้งนี้ ธนาคารกสิกรไทย มีแผนจะรุกตลาดเพื่อครองความเป็นอันดับหนึ่งในตลาดบัตรเครดิตอย่างต่อเนื่อง จึงได้ปรับรูปลักษณ์และภาพลักษณ์ของบัตรเครดิตกสิกรไทยใหม่ (Re-Brand) โดยการนำลวดลายเส้นสาย และรูปแบบร่วมสมัยที่เรียบหรู บ่งบอกถึงสถานะของผู้ถือบัตรอย่างเหมาะสม รวมทั้งมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า จากที่เคยใช้บัตรเครดิตเพื่อความสะดวกในการจับจ่ายมาเป็นการใช้บัตรเครดิต เพื่อเติมเต็มชีวิต มอบความสุขจากสิทธิประโยชน์ให้ผู้ถือบัตรในทุกระดับ ตามแนวคิด “บัตรที่ให้คุณมีความสุขได้ทุกวัน”
นอกจากนี้ ธนาคาร ฯ ยังได้จัดโปรโมชั่นพิเศษด้วยแคมเปญ “พิเศษเสมอทั่วโลก กิน บิน เที่ยว เหนือระดับ รับเงินคืน 15% เพียงใช้คะแนนสะสมและเท่ายอดใช้จ่าย” สำหรับผู้ถือบัตรเครดิตกสิกรไทยที่ใช้จ่ายในร้านค้าหมวดร้านอาหาร โรงแรมและสายการบินทั่วโลก ตั้งแต่วันนี้ถึง 15 พฤศจิกายน 2555 และลงทะเบียนผ่านระบบ SMS จะได้รับเงินคืนเข้าบัญชี 15% ของยอดใช้จ่ายผ่านบัตร
นายชาติชาย กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากแคมเปญ “พิเศษเสมอทั่วโลก กิน บิน เที่ยว เหนือระดับ รับเงินคืน 15% เพียงใช้คะแนนสะสมและเท่ายอดใช้จ่าย” ธนาคารยังมีแคมเปญ “ศุกร์ สุข สุด ๆ” สำหรับลูกค้าที่ใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตกสิกรไทยใน 3 ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ได้แก่ เซ็นทรัล ชิดลม พารากอน และโรบินสัน พระราม 9 ด้วยสิทธิพิเศษ ช้อป 1,000 บาท คืน 1,000 บาท สำหรับ 1,000 ท่านแรกทุกวันศุกร์ตลอดทั้งปี และธนาคารจะขยายไปยังกลุ่มลูกค้าต่างจังหวัดเป้าหมายโดยหมุนเวียนไปทุกเดือน เริ่มต้นจากจังหวัดขอนแก่น อุดรธานี นครราชสีมา พัทยา ภูเก็ต เชียงใหม่ และหาดใหญ่ เพื่อให้ผู้ถือบัตรเครดิตในต่างจังหวัดมีโอกาสรับความสุขจากแคมเปญดังกล่าว อย่างทั่วถึง
ขอบคุณข้อมูล:siamturakij.com ลงวันที่ 22-09-2012 by creditonhand
นายชาติชาย พยุหนาวีชัย รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดบัตรเครดิตทั้งประเทศสิ้นปี 2554 มีจำนวนผู้ถือบัตรเครดิตทั้งสิ้น 15.3 ล้านใบ และคาดว่าสิ้นปี 2555 จะเพิ่มขึ้นเป็น 16.7 ล้านใบ ขณะที่จำนวนผู้ถือบัตรเครดิตกสิกรไทยปัจจุบันอยู่ที่ 2.37 ล้านใบ และมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต ณ สิ้นสิงหาคม 2555 จำนวนกว่า 119,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 30% ซึ่งคาดว่าสิ้นปีนี้จะมีจำนวนผู้ถือบัตรเครดิตกสิกรไทยเพิ่มเป็น 2.5 ล้านใบ มียอดใช้จ่ายผ่านบัตร 205,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 36% ทำให้บัตรเครดิตกสิกรไทยยังคงเป็นบัตรเครดิตที่ลูกค้าให้ความไว้วางใจและใช้ จ่ายผ่านบัตรมากที่สุด
ทั้งนี้ ธนาคารกสิกรไทย มีแผนจะรุกตลาดเพื่อครองความเป็นอันดับหนึ่งในตลาดบัตรเครดิตอย่างต่อเนื่อง จึงได้ปรับรูปลักษณ์และภาพลักษณ์ของบัตรเครดิตกสิกรไทยใหม่ (Re-Brand) โดยการนำลวดลายเส้นสาย และรูปแบบร่วมสมัยที่เรียบหรู บ่งบอกถึงสถานะของผู้ถือบัตรอย่างเหมาะสม รวมทั้งมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า จากที่เคยใช้บัตรเครดิตเพื่อความสะดวกในการจับจ่ายมาเป็นการใช้บัตรเครดิต เพื่อเติมเต็มชีวิต มอบความสุขจากสิทธิประโยชน์ให้ผู้ถือบัตรในทุกระดับ ตามแนวคิด “บัตรที่ให้คุณมีความสุขได้ทุกวัน”
นอกจากนี้ ธนาคาร ฯ ยังได้จัดโปรโมชั่นพิเศษด้วยแคมเปญ “พิเศษเสมอทั่วโลก กิน บิน เที่ยว เหนือระดับ รับเงินคืน 15% เพียงใช้คะแนนสะสมและเท่ายอดใช้จ่าย” สำหรับผู้ถือบัตรเครดิตกสิกรไทยที่ใช้จ่ายในร้านค้าหมวดร้านอาหาร โรงแรมและสายการบินทั่วโลก ตั้งแต่วันนี้ถึง 15 พฤศจิกายน 2555 และลงทะเบียนผ่านระบบ SMS จะได้รับเงินคืนเข้าบัญชี 15% ของยอดใช้จ่ายผ่านบัตร
นายชาติชาย กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากแคมเปญ “พิเศษเสมอทั่วโลก กิน บิน เที่ยว เหนือระดับ รับเงินคืน 15% เพียงใช้คะแนนสะสมและเท่ายอดใช้จ่าย” ธนาคารยังมีแคมเปญ “ศุกร์ สุข สุด ๆ” สำหรับลูกค้าที่ใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตกสิกรไทยใน 3 ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ได้แก่ เซ็นทรัล ชิดลม พารากอน และโรบินสัน พระราม 9 ด้วยสิทธิพิเศษ ช้อป 1,000 บาท คืน 1,000 บาท สำหรับ 1,000 ท่านแรกทุกวันศุกร์ตลอดทั้งปี และธนาคารจะขยายไปยังกลุ่มลูกค้าต่างจังหวัดเป้าหมายโดยหมุนเวียนไปทุกเดือน เริ่มต้นจากจังหวัดขอนแก่น อุดรธานี นครราชสีมา พัทยา ภูเก็ต เชียงใหม่ และหาดใหญ่ เพื่อให้ผู้ถือบัตรเครดิตในต่างจังหวัดมีโอกาสรับความสุขจากแคมเปญดังกล่าว อย่างทั่วถึง
ขอบคุณข้อมูล:siamturakij.com ลงวันที่ 22-09-2012 by creditonhand
ktc
“เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ร่วมกับสายการบินบางกอก แอร์เวย์ส มอบสิทธิพิเศษ “X’treme Save with Bangkok Airways” สำหรับสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซีทุกประเภท ที่ซื้อบัตรโดยสารทั้งในและต่างประเทศของสายการบินบางกอก แอร์เวย์ส ในราคา 4,000 บาทขึ้นไป/ท่าน
โดยสามารถผ่อนชำระ 0% กับบริการ KTC Flexi นาน 4 เดือน และเมื่อซื้อ 10,000 บาทขึ้นไป/ท่าน สามารถผ่อนชำระ 0% ได้นานสูงสุดถึง 6 เดือน ตั้งแต่วันนี้ - 15 ตุลาคม 2555 โดยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายการบินบางกอก แอร์เวย์ส โทรศัพท์ 1771 หรือเว็บไซต์ bangkokair.com และ KTC World ศูนย์บริการการเดินทางและท่องเที่ยว โทรศัพท์ 0-2665-5050 หรือเว็บไซต์ ktcworld.co.th
โดยสามารถผ่อนชำระ 0% กับบริการ KTC Flexi นาน 4 เดือน และเมื่อซื้อ 10,000 บาทขึ้นไป/ท่าน สามารถผ่อนชำระ 0% ได้นานสูงสุดถึง 6 เดือน ตั้งแต่วันนี้ - 15 ตุลาคม 2555 โดยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายการบินบางกอก แอร์เวย์ส โทรศัพท์ 1771 หรือเว็บไซต์ bangkokair.com และ KTC World ศูนย์บริการการเดินทางและท่องเที่ยว โทรศัพท์ 0-2665-5050 หรือเว็บไซต์ ktcworld.co.th
นายณัฐวัฒน์ ฉายากุล ผู้อำนวยการ สายงานธุรกิจบัตรเครดิต “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ “เอสซีจี เอกซ์พีเรียนซ์” (SCG Experience) ศูนย์รวมความรู้ให้คำปรึกษาเรื่องบ้านและผลิตภัณฑ์วัสดุก่อสร้างจากเอสซีจี มอบสิทธิ์ให้สมาชิกบัตรเครดิตเคทีซีสามารถแบ่งชำระค่าสินค้าราคาตั้งแต่ 20,000 บาทขึ้นไป ทุกชิ้น ทั้งร้าน ผ่านระบบแบ่งชำระอัตโนมัติ KTC FLEXI ดอกเบี้ย 0% นาน 4 เดือน นอกจากนี้ สมาชิกยังจะได้รับเงินคืนสูงสุดถึง 5,000 บาท เมื่อแบ่งชำระสินค้าครบตามที่กำหนด รับเงินคืน 500 บาท เมื่อแบ่งชำระ 35,000 บาทขึ้นไป หรือ รับคืน 1,500 บาท เมื่อแบ่งชำระ 50,000 บาทขึ้นไป หรือรับคืน 3,000 บาท เมื่อแบ่งชำระ 70,000 บาทขึ้นไป และรับคืนสูงสุดถึง 5,000 บาท เมื่อแบ่งชำระ 100,000 บาทขึ้นไป ที่ “เอสซีจี เอกซ์พีเรียนซ์” สาขาเลียบทางด่วนเอกมัย รามอินทรา และสาขาเมกา บางนา ชั้น 1 ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 กันยายน 2555
ขอขอบคุณข้อมูล:newswit.com/fin/2012-09-04/ed5b93392459de553c9b4c08f5a9a121/ ลงวันที่ 08-09-2012 by creditonhand0
ขอขอบคุณข้อมูล:newswit.com/fin/2012-09-04/ed5b93392459de553c9b4c08f5a9a121/ ลงวันที่ 08-09-2012 by creditonhand0
ภัยเหนือเมฆ
สวัสดีครับท่านผู้อ่านวันนี้จะขอพูดเรื่องที่ใกล้ตัวท่านผู้อ่านและมี โอกาสที่จะเกิดกับท่านผู้อ่านสักหน่อยนะครับ ในเดือนที่แล้วนั้นมีข่าวน่าสนใจถูกตีพิมพ์ลงในนิตยสาร WIRED ซึ่งเป็นนิตยสารเกี่ยวกับเทคโนโลยีโดยเฉพาะทางโลกไอที
บทความดังกล่าวเล่าถึงกรณีที่ คุณ Mat Honan บรรณาธิการของเว็บไซต์ Gizmodo ซึ่งเป็นเว็บไซต์เกี่ยวกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง ถูกขโมยบัญชีผู้ใช้ของ Google Account, Amazon, Apple ID และ Twitter ไปในเวลาไล่เลี่ยกัน พูดง่าย ๆคือโดน hack นั่นเอง และผู้ที่ขโมยบัญชี (เรียกว่า Hacker) นั้นได้ทำการลบข้อมูลทั้งหมดของคุณ Honan ออกไป และเนื่องจากคุณ Honan นั้นใช้เครื่องแม็คบุ๊กและใช้บริการ Find My Mac ของไอคลาวด์ ทำให้ Hacker นั้นสามารถลบข้อมูลทั้งหมดในเครื่องแม็ค บุ๊กของคุณ Honan ได้ ซึ่งรวมถึงรูปถ่ายของครอบครัวและลูกสาววัยแบเบาะซึ่งคุณ Honan บอกว่ามันเป็นของที่มีคุณค่ามากสำหรับเขา
ตอนแรกคุณ Honan นั้นก็แปลกใจว่าทำไมถึงโดน hack ได้เพื่อนเขาหลาย ๆ คนบอกว่าน่าจะติดไวรัสหรือโทรจันที่ทำการขโมยข้อมูลรหัสผ่านไปจากเครื่องของ เขา แต่หลังจากนั้นไม่นาน คุณ Honan ได้รับการติดต่อจาก Hacker ที่ใช้ชื่อว่า “Phobia” ซึ่งเป็นคนที่ hack บัญชีของเขา และได้คุยกันจน Phobia ยอมเปิดเผยข้อมูล และกลายมาเป็นบทความให้เราได้อ่านกัน
ปรากฏว่า การ hack บัญชีของคุณ Honan นั้นทำได้อย่างธรรมดามาก โดยอาศัยช่องทางที่เรียกว่าการขอรหัสผ่านใหม่เมื่อเราลืมรหัสผ่าน ระบบออนไลน์หลายที่นั้นยอมให้เราขอรหัสผ่านใหม่ได้ เพียงแค่ตอบคำถามความปลอดภัยง่าย ๆ สองถึงสามข้อ ผมจะขอยกตัวอย่างที่น่าจะใกล้ตัวผู้อ่านหลาย ๆ คนได้ดี
เมื่อไม่นานมานี้ผมทำบัตรเอทีเอ็ม หล่นหาย ทันทีที่รู้ตัว ผมก็โทรฯ ไปยังธนาคารเพื่อทำการอายัดบัตรเอทีเอ็มดังกล่าว ผลปรากฏว่าผมสามารถอายัดบัตรได้โดยอาศัยข้อมูลเลขที่บัญชี, วันเกิด และ คำตอบของคำถามที่ว่าผมเคยใช้บริการอื่น ๆ ของธนาคารหรือไม่
ขอให้ท่านผู้อ่านลองสังเกตว่า ข้อมูลดังกล่าวนั้นหาได้ง่ายมาก ลองนึกถึงคนที่ขายของผ่านอินเทอร์เน็ตข้อมูลทั้งเลขที่บัญชีและวันเกิดนั้น สามารถหาได้ทันทีอยู่แล้ว ถ้าเราอยากจะอายัดบัตรเอทีเอ็ม นั้นก็สามารถทำได้ง่ายดาย และสามารถก่อปัญหาให้กับเจ้าของบัญชีตัวจริงได้มาก
การ hack บัญชีของคุณ Honan นั้นเริ่มโดย Phobia โทรฯ ไปที่ Amazon ซึ่งเป็นบริการขายของออนไลน์ โดยโทรฯ ไปเพื่อขอเพิ่มข้อมูลบัตรเครดิตโดย Phobiaใช้ข้อมูลบัตรเครดิตปลอม ซึ่ง Amazon ยอมให้เพิ่มได้โดยที่ไม่ถามอะไรเลย (ในแง่หนึ่งก็ดูเหมือนจะปลอดภัย เพราะว่าการเพิ่มข้อมูลบัตรเครดิตนั้นไม่น่าจะทำให้ใครเสียเงินได้) แต่ปัญหาอยู่ที่ว่า หลังจากนั้น Phobia ได้โทรฯ ไปที่ Amazonอีกครั้ง แล้วอ้างว่าเขาลืมรหัสผ่าน ซึ่งทาง Amazon ได้ตั้งนโยบายไว้ว่า ถ้าหากคนที่โทรฯ เข้ามานั้นรู้ข้อมูลหมายเลขบัตรเครดิต ก็จะสร้างรหัสผ่านให้ ซึ่งดูเผิน ๆ ก็น่าจะไม่มีปัญหา เพราะว่าคนที่รู้หมายเลขบัตรเครดิต ก็ควรจะเป็นเจ้าของบัญชีนั่นเอง แต่ท่านผู้อ่านคงเห็นแล้วว่าเมื่อเงื่อนไขทั้งสองอย่างมาอยู่รวมกัน มันทำให้ใครก็ได้สามารถเข้าถึงบัญชีของ Amazon ได้
หลังจากนั้น Phobia เข้าไปยัง Amazon ซึ่งทำให้ Phobia ทราบเลขที่บัตรเครดิต 4 ตัวท้ายของบัตรเครดิตจริงของคุณ Honan และ Phobia ได้ใช้ข้อมูลดังกล่าว ร่วมกับที่อยู่ของคุณ Honan เพื่อเข้าไปยังบัญชี Apple ID ด้วยวิธีเดียวกัน คือโทรฯ ไปหา Apple และบอกว่าลืมรหัสผ่าน ซึ่งทาง Apple ต้องการเพียงแค่เลขที่บัตรเครดิต 4 ตัวท้าย และข้อมูลอื่น ๆ ที่ Phobia มีอยู่แล้ว สิ่งที่เป็นปัญหาหลังจากนั้นก็คือ การที่คุณ Honan นั้นเชื่อมต่อบัญชีต่าง ๆของเขาเข้าด้วยกัน เช่น ถ้าเราลืมรหัสผ่านของบางเว็บไซต์ เราสามารถขอให้เว็บไซต์ดังกล่าวส่งรหัสผ่านใหม่มายัง email ที่เราเชื่อมต่อไว้กับเว็บไซต์ดังกล่าวได้ เมื่อ Phobia นั้นเข้าถึงบัญชี Apple ID ของคุณ Honan ก็ทำให้ Phobia สามารถเข้าถึงบัญชีอื่น ๆ ได้โดยง่าย และสุดท้ายนำไปสู่การลบข้อมูลของคุณ Honan ทั้งหมด
ถึงตรงนี้ท่านผู้อ่านหลายท่านคงเกิดคำถามขึ้นในใจว่าแล้วเราควรจะทำอย่างไร ดี? สิ่งแรกที่ควรตรวจสอบก่อนก็คือบริการออนไลน์หรือบริการบนกลุ่มเมฆต่าง ๆ ที่เราใช้อยู่นั้นมีระบบระบุตัวตนอย่างไรบ้าง และเราควรจะเปลี่ยนไปใช้บริการที่ปลอดภัยมากขึ้นหรือเปล่า บริการบางอย่างนั้นยอมให้เราตั้งค่าความปลอดภัยเพิ่มเติมได้ เช่น ในกรณีของบริการ gmail นั้น เราสามารถเลือกใช้งาน two-factor authentication ได้ ซึ่งระบบดังกล่าวจะบังคับให้เราต้องกรอกรหัสผ่านเพิ่มเติมซึ่งจะถูกส่งมาทาง เอสเอ็มเอสที่มือถือเราทุกครั้งที่จะทำการเข้าใช้บริการ ซึ่งระบบดังกล่าวจะมีความปลอดภัยมากขึ้น เพราะคนที่จะแอบเข้ามาใช้งานนั้นจะต้องมีทั้งมือถือของเรา และรหัสผ่านด้วย
อีกสิ่งหนึ่งที่ควรจะทดลองทำก็คือ ทด สอบการขอรีเซ็ตรหัสผ่าน หรือการขอรหัสผ่านใหม่ เพื่อตรวจสอบดูว่าการขอรหัสผ่านนั้นง่ายเกินไปหรือไม่ หรือรหัสผ่านนั้นถูกส่งมาทางใด ถ้ารหัสผ่านถูกแจ้งผ่านมายัง email ที่มีความปลอดภัยต่ำ ก็ควรจะเปลี่ยน email ดังกล่าวเสีย หรือในกรณีที่มีการใช้คำถามเพื่อความปลอดภัย (security question) เพื่อระบุตัวตน ก็ให้เลือกใช้คำถามที่ตอบได้ยาก อย่างตัวผู้เขียนเองนั้นจะยกเลิกการใช้คำถามดังกล่าวไปเลยถ้ายกเลิกได้ หรือใส่คำตอบที่ไม่มีทางตอบถูก (เช่น อักขระมั่ว ๆ ยาว ๆ) เพราะเห็นว่าการใช้คำตอบดังกล่าวนั้นง่ายเกินไป
ท่านผู้อ่านคงจะเห็นแล้วว่าปัญหาทางด้านความปลอดภัยนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญ มาก โดยเฉพาะเมื่อชีวิตของเรานั้นขึ้นอยู่กับบริการบนกลุ่มเมฆมากขึ้นเรื่อย ๆ เราก็ต้องยิ่งระมัดระวังให้มากยิ่งขึ้น หวังว่าทุกท่านคงจะปลอดภัยและมีสติในการใช้งานอินเทอร์เน็ตครับ
(ท่านผู้อ่านที่ต้องการอ่านรายละเอียดของการ hack ของคุณ Honan สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://www.wired.com/gadgetlab/2012/08/apple-amazon-mat-honan-hacking ส่วนท่านผู้อ่านที่สนใจระบบ two-factor authentication บน Google Account สามารถดูรายละเอียดได้ที่ http://support.google.com/accounts/bin/topic.py?hl=en&topic=28786).
นัทที นิภานันท์
บทความดังกล่าวเล่าถึงกรณีที่ คุณ Mat Honan บรรณาธิการของเว็บไซต์ Gizmodo ซึ่งเป็นเว็บไซต์เกี่ยวกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง ถูกขโมยบัญชีผู้ใช้ของ Google Account, Amazon, Apple ID และ Twitter ไปในเวลาไล่เลี่ยกัน พูดง่าย ๆคือโดน hack นั่นเอง และผู้ที่ขโมยบัญชี (เรียกว่า Hacker) นั้นได้ทำการลบข้อมูลทั้งหมดของคุณ Honan ออกไป และเนื่องจากคุณ Honan นั้นใช้เครื่องแม็คบุ๊กและใช้บริการ Find My Mac ของไอคลาวด์ ทำให้ Hacker นั้นสามารถลบข้อมูลทั้งหมดในเครื่องแม็ค บุ๊กของคุณ Honan ได้ ซึ่งรวมถึงรูปถ่ายของครอบครัวและลูกสาววัยแบเบาะซึ่งคุณ Honan บอกว่ามันเป็นของที่มีคุณค่ามากสำหรับเขา
ตอนแรกคุณ Honan นั้นก็แปลกใจว่าทำไมถึงโดน hack ได้เพื่อนเขาหลาย ๆ คนบอกว่าน่าจะติดไวรัสหรือโทรจันที่ทำการขโมยข้อมูลรหัสผ่านไปจากเครื่องของ เขา แต่หลังจากนั้นไม่นาน คุณ Honan ได้รับการติดต่อจาก Hacker ที่ใช้ชื่อว่า “Phobia” ซึ่งเป็นคนที่ hack บัญชีของเขา และได้คุยกันจน Phobia ยอมเปิดเผยข้อมูล และกลายมาเป็นบทความให้เราได้อ่านกัน
ปรากฏว่า การ hack บัญชีของคุณ Honan นั้นทำได้อย่างธรรมดามาก โดยอาศัยช่องทางที่เรียกว่าการขอรหัสผ่านใหม่เมื่อเราลืมรหัสผ่าน ระบบออนไลน์หลายที่นั้นยอมให้เราขอรหัสผ่านใหม่ได้ เพียงแค่ตอบคำถามความปลอดภัยง่าย ๆ สองถึงสามข้อ ผมจะขอยกตัวอย่างที่น่าจะใกล้ตัวผู้อ่านหลาย ๆ คนได้ดี
เมื่อไม่นานมานี้ผมทำบัตรเอทีเอ็ม หล่นหาย ทันทีที่รู้ตัว ผมก็โทรฯ ไปยังธนาคารเพื่อทำการอายัดบัตรเอทีเอ็มดังกล่าว ผลปรากฏว่าผมสามารถอายัดบัตรได้โดยอาศัยข้อมูลเลขที่บัญชี, วันเกิด และ คำตอบของคำถามที่ว่าผมเคยใช้บริการอื่น ๆ ของธนาคารหรือไม่
ขอให้ท่านผู้อ่านลองสังเกตว่า ข้อมูลดังกล่าวนั้นหาได้ง่ายมาก ลองนึกถึงคนที่ขายของผ่านอินเทอร์เน็ตข้อมูลทั้งเลขที่บัญชีและวันเกิดนั้น สามารถหาได้ทันทีอยู่แล้ว ถ้าเราอยากจะอายัดบัตรเอทีเอ็ม นั้นก็สามารถทำได้ง่ายดาย และสามารถก่อปัญหาให้กับเจ้าของบัญชีตัวจริงได้มาก
การ hack บัญชีของคุณ Honan นั้นเริ่มโดย Phobia โทรฯ ไปที่ Amazon ซึ่งเป็นบริการขายของออนไลน์ โดยโทรฯ ไปเพื่อขอเพิ่มข้อมูลบัตรเครดิตโดย Phobiaใช้ข้อมูลบัตรเครดิตปลอม ซึ่ง Amazon ยอมให้เพิ่มได้โดยที่ไม่ถามอะไรเลย (ในแง่หนึ่งก็ดูเหมือนจะปลอดภัย เพราะว่าการเพิ่มข้อมูลบัตรเครดิตนั้นไม่น่าจะทำให้ใครเสียเงินได้) แต่ปัญหาอยู่ที่ว่า หลังจากนั้น Phobia ได้โทรฯ ไปที่ Amazonอีกครั้ง แล้วอ้างว่าเขาลืมรหัสผ่าน ซึ่งทาง Amazon ได้ตั้งนโยบายไว้ว่า ถ้าหากคนที่โทรฯ เข้ามานั้นรู้ข้อมูลหมายเลขบัตรเครดิต ก็จะสร้างรหัสผ่านให้ ซึ่งดูเผิน ๆ ก็น่าจะไม่มีปัญหา เพราะว่าคนที่รู้หมายเลขบัตรเครดิต ก็ควรจะเป็นเจ้าของบัญชีนั่นเอง แต่ท่านผู้อ่านคงเห็นแล้วว่าเมื่อเงื่อนไขทั้งสองอย่างมาอยู่รวมกัน มันทำให้ใครก็ได้สามารถเข้าถึงบัญชีของ Amazon ได้
หลังจากนั้น Phobia เข้าไปยัง Amazon ซึ่งทำให้ Phobia ทราบเลขที่บัตรเครดิต 4 ตัวท้ายของบัตรเครดิตจริงของคุณ Honan และ Phobia ได้ใช้ข้อมูลดังกล่าว ร่วมกับที่อยู่ของคุณ Honan เพื่อเข้าไปยังบัญชี Apple ID ด้วยวิธีเดียวกัน คือโทรฯ ไปหา Apple และบอกว่าลืมรหัสผ่าน ซึ่งทาง Apple ต้องการเพียงแค่เลขที่บัตรเครดิต 4 ตัวท้าย และข้อมูลอื่น ๆ ที่ Phobia มีอยู่แล้ว สิ่งที่เป็นปัญหาหลังจากนั้นก็คือ การที่คุณ Honan นั้นเชื่อมต่อบัญชีต่าง ๆของเขาเข้าด้วยกัน เช่น ถ้าเราลืมรหัสผ่านของบางเว็บไซต์ เราสามารถขอให้เว็บไซต์ดังกล่าวส่งรหัสผ่านใหม่มายัง email ที่เราเชื่อมต่อไว้กับเว็บไซต์ดังกล่าวได้ เมื่อ Phobia นั้นเข้าถึงบัญชี Apple ID ของคุณ Honan ก็ทำให้ Phobia สามารถเข้าถึงบัญชีอื่น ๆ ได้โดยง่าย และสุดท้ายนำไปสู่การลบข้อมูลของคุณ Honan ทั้งหมด
ถึงตรงนี้ท่านผู้อ่านหลายท่านคงเกิดคำถามขึ้นในใจว่าแล้วเราควรจะทำอย่างไร ดี? สิ่งแรกที่ควรตรวจสอบก่อนก็คือบริการออนไลน์หรือบริการบนกลุ่มเมฆต่าง ๆ ที่เราใช้อยู่นั้นมีระบบระบุตัวตนอย่างไรบ้าง และเราควรจะเปลี่ยนไปใช้บริการที่ปลอดภัยมากขึ้นหรือเปล่า บริการบางอย่างนั้นยอมให้เราตั้งค่าความปลอดภัยเพิ่มเติมได้ เช่น ในกรณีของบริการ gmail นั้น เราสามารถเลือกใช้งาน two-factor authentication ได้ ซึ่งระบบดังกล่าวจะบังคับให้เราต้องกรอกรหัสผ่านเพิ่มเติมซึ่งจะถูกส่งมาทาง เอสเอ็มเอสที่มือถือเราทุกครั้งที่จะทำการเข้าใช้บริการ ซึ่งระบบดังกล่าวจะมีความปลอดภัยมากขึ้น เพราะคนที่จะแอบเข้ามาใช้งานนั้นจะต้องมีทั้งมือถือของเรา และรหัสผ่านด้วย
อีกสิ่งหนึ่งที่ควรจะทดลองทำก็คือ ทด สอบการขอรีเซ็ตรหัสผ่าน หรือการขอรหัสผ่านใหม่ เพื่อตรวจสอบดูว่าการขอรหัสผ่านนั้นง่ายเกินไปหรือไม่ หรือรหัสผ่านนั้นถูกส่งมาทางใด ถ้ารหัสผ่านถูกแจ้งผ่านมายัง email ที่มีความปลอดภัยต่ำ ก็ควรจะเปลี่ยน email ดังกล่าวเสีย หรือในกรณีที่มีการใช้คำถามเพื่อความปลอดภัย (security question) เพื่อระบุตัวตน ก็ให้เลือกใช้คำถามที่ตอบได้ยาก อย่างตัวผู้เขียนเองนั้นจะยกเลิกการใช้คำถามดังกล่าวไปเลยถ้ายกเลิกได้ หรือใส่คำตอบที่ไม่มีทางตอบถูก (เช่น อักขระมั่ว ๆ ยาว ๆ) เพราะเห็นว่าการใช้คำตอบดังกล่าวนั้นง่ายเกินไป
ท่านผู้อ่านคงจะเห็นแล้วว่าปัญหาทางด้านความปลอดภัยนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญ มาก โดยเฉพาะเมื่อชีวิตของเรานั้นขึ้นอยู่กับบริการบนกลุ่มเมฆมากขึ้นเรื่อย ๆ เราก็ต้องยิ่งระมัดระวังให้มากยิ่งขึ้น หวังว่าทุกท่านคงจะปลอดภัยและมีสติในการใช้งานอินเทอร์เน็ตครับ
(ท่านผู้อ่านที่ต้องการอ่านรายละเอียดของการ hack ของคุณ Honan สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://www.wired.com/gadgetlab/2012/08/apple-amazon-mat-honan-hacking ส่วนท่านผู้อ่านที่สนใจระบบ two-factor authentication บน Google Account สามารถดูรายละเอียดได้ที่ http://support.google.com/accounts/bin/topic.py?hl=en&topic=28786).
นัทที นิภานันท์
บัตรเครดิตรากหญ้า
นายธัชพล กาญจนกูล รองผู้อำนวยการธนาคารออมสินอาวุโส รักษาการผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่าธนาคารยังไม่ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับข้อเสนอของกระทรวงพลังงานที่เสนอให้มีการจัดทำบัตรเครดิตรากหญ้า เพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อย เช่นเดียวกับบัตรเครดิตเกษตรกร และบัตรเครดิตพลังงานที่ออกมาในช่วงก่อนหน้านี้
"หากรัฐบาลมีนโยบายที่ชัดเจนลงมาว่าให้ออมสินดำเนินการเข้าไปช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อย ธนาคารก็พร้อมจะดำเนินการทันที โดยกลุ่มเป้าหมายหลักน่าจะเป็นกลุ่มที่มีรายได้น้อย อาทิ พ่อค้าแม่ค้า นักศึกษา หรือกลุ่มที่ไม่มีความสามารถในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน แต่หลักเกณฑ์ในการดำเนินการอาจเข้มงวดขึ้นกว่าปกติ เพราะถือเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะเกิดหนี้เสีย (เอ็นพีแอล) แต่เชื่อว่าธนาคารจะมีแนวทางควบคุมได้ โดยเบื้องต้นยืนยันว่าหากมีการดำเนินการจริงอัตราดอกเบี้ยสำหรับบัตรเครดิตของธนาคารคงต่ำกว่าดอกเบี้ยในบัตรเครดิตของธนาคารพาณิชย์ที่ปัจจุบันอยู่ที่ 18% แน่นอน? นายธัชพลกล่าว
นอกจากนี้ ออมสินอยู่ระหว่างการขอวงเงินในโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยผ่อนปรนพิเศษ (ซอฟต์โลน) ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพิ่มอีก 1 หมื่นล้านบาท จากเดิมที่ก่อนหน้านี้ธนาคารมีวงเงินในการปล่อยสินเชื่อดังกล่าวราว 3.4 หมื่นล้านบาท คาดว่าน่าจะปล่อยสินเชื่อได้หมดภายใน 1-2 สัปดาห์จากนี้ ทั้งนี้ ลูกค้าส่วนใหญ่ที่มาขอซอฟต์โลนเพื่อนำไปซ่อมแซมที่อยู่อาศัยภายหลังน้ำท่วมเมื่อปลายปีที่ผ่านมา
นายธัชพลยังกล่าวถึงนโยบายของนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ที่ต้องการให้ธนาคารลดดอกเบี้ยในระดับ 3% ให้กับลูกค้าของธนาคารที่เข้าหลักเกณฑ์โครงการพักหนี้ดีทันทีโดยไม่ต้องลงทะเบียนว่า ขณะนี้ธนาคารยังรอนโยบายที่ชัดเจนจากนายกิตติรัตน์ โดยเบื้องต้นคาดว่าจะมีความชัดเจนหลังวันที่ 20 ส.ค.นี้ ซึ่งเป็นวันปิดรับลงทะเบียน อย่างไรก็ดี ขณะนี้มีลูกค้าของธนาคารได้รับการอนุมัติในโครงการพักชำระหนี้ดีไม่เกิน 5 แสนบาทแล้ว 1.7 หมื่นราย คิดเป็นวงเงิน 3 พันล้านบาท จากเป้าหมาย 3.8 แสนราย
ขอขอบคุณข้อมูล: khaosod.co.th ลงวันที่ 11-08-2012 by creditonhand
"หากรัฐบาลมีนโยบายที่ชัดเจนลงมาว่าให้ออมสินดำเนินการเข้าไปช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อย ธนาคารก็พร้อมจะดำเนินการทันที โดยกลุ่มเป้าหมายหลักน่าจะเป็นกลุ่มที่มีรายได้น้อย อาทิ พ่อค้าแม่ค้า นักศึกษา หรือกลุ่มที่ไม่มีความสามารถในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน แต่หลักเกณฑ์ในการดำเนินการอาจเข้มงวดขึ้นกว่าปกติ เพราะถือเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะเกิดหนี้เสีย (เอ็นพีแอล) แต่เชื่อว่าธนาคารจะมีแนวทางควบคุมได้ โดยเบื้องต้นยืนยันว่าหากมีการดำเนินการจริงอัตราดอกเบี้ยสำหรับบัตรเครดิตของธนาคารคงต่ำกว่าดอกเบี้ยในบัตรเครดิตของธนาคารพาณิชย์ที่ปัจจุบันอยู่ที่ 18% แน่นอน? นายธัชพลกล่าว
นอกจากนี้ ออมสินอยู่ระหว่างการขอวงเงินในโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยผ่อนปรนพิเศษ (ซอฟต์โลน) ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพิ่มอีก 1 หมื่นล้านบาท จากเดิมที่ก่อนหน้านี้ธนาคารมีวงเงินในการปล่อยสินเชื่อดังกล่าวราว 3.4 หมื่นล้านบาท คาดว่าน่าจะปล่อยสินเชื่อได้หมดภายใน 1-2 สัปดาห์จากนี้ ทั้งนี้ ลูกค้าส่วนใหญ่ที่มาขอซอฟต์โลนเพื่อนำไปซ่อมแซมที่อยู่อาศัยภายหลังน้ำท่วมเมื่อปลายปีที่ผ่านมา
นายธัชพลยังกล่าวถึงนโยบายของนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ที่ต้องการให้ธนาคารลดดอกเบี้ยในระดับ 3% ให้กับลูกค้าของธนาคารที่เข้าหลักเกณฑ์โครงการพักหนี้ดีทันทีโดยไม่ต้องลงทะเบียนว่า ขณะนี้ธนาคารยังรอนโยบายที่ชัดเจนจากนายกิตติรัตน์ โดยเบื้องต้นคาดว่าจะมีความชัดเจนหลังวันที่ 20 ส.ค.นี้ ซึ่งเป็นวันปิดรับลงทะเบียน อย่างไรก็ดี ขณะนี้มีลูกค้าของธนาคารได้รับการอนุมัติในโครงการพักชำระหนี้ดีไม่เกิน 5 แสนบาทแล้ว 1.7 หมื่นราย คิดเป็นวงเงิน 3 พันล้านบาท จากเป้าหมาย 3.8 แสนราย
ขอขอบคุณข้อมูล: khaosod.co.th ลงวันที่ 11-08-2012 by creditonhand
นาย กิตติ พัฒนพงศ์พิบูล ประธานสมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัย กล่าวว่า ภายใต้สถานการณ์การเมืองคลี่คลาย และเหตุการณ์น้ำท่วมไม่เลวร้ายเท่าปี 2554 ทำให้เชื่อมั่นว่ายอดสินเชื่อที่อยู่อาศัยปล่อยใหม่ใน ปี 2555 จะอยู่ในระดับ 3 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ 2.7 แสนล้านบาท โดยครึ่งปีแรกที่ผ่านมา พบว่าธนาคารพาณิชย์หลายแห่งมีการขยายตัวของสินเชื่อที่อยู่อาศัยถึง 5-6% ซึ่งโดยหลักมาจากนโยบายของรัฐบาลที่พยายามกระตุ้นเศรษฐกิจไม่ให้กำลังซื้อลด ลง ภายหลังเมื่อช่วงต้นปีได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วมรุนแรง ประกอบกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยังคงรักษาอัตราดอกเบี้ยต่ำ ในขณะที่ตลาดการเงินซึ่งได้นโยบายรัฐบาล เช่นบ้านหลังแรก และสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำพิเศษ (ซอฟต์โลน) 3 แสนล้านบาท สำหรับผู้ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยปี 2554 เข้ามาสนับสนุน
ด้าน นายชาติชาย พยุหนาวีชัย รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า สำหรับภาพรวมการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยใหม่ในปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 4 แสนล้านบาท ทำให้ภายในสิ้นปีนี้จะมีสินเชื่อที่อยู่อาศัยคงค้างเพิ่มขึ้น 6-7% จาก 2.1 ล้านล้านบาท ในปีที่แล้ว มาอยู่ที่ 2.3 ล้านล้านบาท ขณะที่ครึ่งปีแรกธนาคารกสิกรไทยได้ปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยไปแล้ว 2.5 หมื่นล้านบาท จากเป้าหมายทั้งปี 5 หมื่นล้านบาท ซึ่งในส่วนของแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยเชื่อว่าในไตรมาส 3 ยังทรงตัว เนื่องจากกระทรวงการคลังและธปท.พยายามดูแลไม่ให้สูงเกินไป จากปัจจุบันซึ่งดอกเบี้ยอาร์พีอยู่ที่ระดับ 3% และหลังจากนั้นในไตรมาส 4 คงมีการพิจารณาอีกครั้งและหากปรับขึ้นคงไม่เกิน 0.25-0.50% แต่หากอัตราดอกเบี้ยกู้บ้านยืนในระดับปัจจุบัน คือ เฉลี่ย 5-6% ในระยะ 10 ปี จะทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังมีการขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง
ล่า สุดสมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัย และบริษัท โฮมบายเออร์ไกด์ จำกัด เตรียมจัดงานอภิมหกรรมบ้าน-คอนโด และสินเชื่อแห่งปี ที่เป็นการรวมพลัง 3 งานใหญ่ที่อยู่อาศัย ประกอบด้วยโครงการบ้านใหม่ บ้านมือสองราคาพิเศษ และบริการสินเชื่อที่อยู่อาศัย เงื่อนไขพิเศษสุด ระหว่างวันที่ 23-26 ส.ค.นี้ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ คาดว่าจะมีผู้เข้าชมงาน 8 หมื่นคน
ขอบคุณข้อมูล: khaosod.co.th ลงวันที่ 21-07-2012 by creditonhand
ด้าน นายชาติชาย พยุหนาวีชัย รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า สำหรับภาพรวมการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยใหม่ในปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 4 แสนล้านบาท ทำให้ภายในสิ้นปีนี้จะมีสินเชื่อที่อยู่อาศัยคงค้างเพิ่มขึ้น 6-7% จาก 2.1 ล้านล้านบาท ในปีที่แล้ว มาอยู่ที่ 2.3 ล้านล้านบาท ขณะที่ครึ่งปีแรกธนาคารกสิกรไทยได้ปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยไปแล้ว 2.5 หมื่นล้านบาท จากเป้าหมายทั้งปี 5 หมื่นล้านบาท ซึ่งในส่วนของแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยเชื่อว่าในไตรมาส 3 ยังทรงตัว เนื่องจากกระทรวงการคลังและธปท.พยายามดูแลไม่ให้สูงเกินไป จากปัจจุบันซึ่งดอกเบี้ยอาร์พีอยู่ที่ระดับ 3% และหลังจากนั้นในไตรมาส 4 คงมีการพิจารณาอีกครั้งและหากปรับขึ้นคงไม่เกิน 0.25-0.50% แต่หากอัตราดอกเบี้ยกู้บ้านยืนในระดับปัจจุบัน คือ เฉลี่ย 5-6% ในระยะ 10 ปี จะทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังมีการขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง
ล่า สุดสมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัย และบริษัท โฮมบายเออร์ไกด์ จำกัด เตรียมจัดงานอภิมหกรรมบ้าน-คอนโด และสินเชื่อแห่งปี ที่เป็นการรวมพลัง 3 งานใหญ่ที่อยู่อาศัย ประกอบด้วยโครงการบ้านใหม่ บ้านมือสองราคาพิเศษ และบริการสินเชื่อที่อยู่อาศัย เงื่อนไขพิเศษสุด ระหว่างวันที่ 23-26 ส.ค.นี้ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ คาดว่าจะมีผู้เข้าชมงาน 8 หมื่นคน
ขอบคุณข้อมูล: khaosod.co.th ลงวันที่ 21-07-2012 by creditonhand
กรุงศรี
มร.ฟิลลิป แทน ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY เปิดเผยว่า ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ (E-commerce) ในไทยมีศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง สืบเนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่คุ้นเคยกับการจองหรือซื้อสินค้าและบริการ ผ่านอินเตอร์เน็ตมากขึ้น โดยล่าสุดธนาคารจะเน้นการให้บริการธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ผ่านระบบการชำระเงินออนไลน์ ด้วยการเปิดตัวบริการ กรุงศรี อี-เพย์เมนท์ (Krungsri e-Payment) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่มีความปลอดภัยสูงในการใช้บัตรเครดิตชำระเงินออนไลน์ จึงเชื่อว่าจะเพิ่มปริมาณการทำธุรกรรมให้สามารถรับชำระสินค้าและบริการได้ ทั่วโลกตลอด 24 ชั่วโมง โดยธนาคารตั้งเป้าหมายว่าจะมีร้านค้าที่ใช้บริการดังกล่าวกว่า 5,000 ราย จากปัจจุบันที่อยู่ประมาณ 500 ราย
มร.ฟิลลิป กล่าวว่า ธนาคารจะได้รับผลตอบแทนในการทำธุรกรรมผ่านระบบออนไลน์ ทั้งจากธุรกรรมการชำระเงินและค่าธรรมเนียมผ่านร้านค้า ที่ธนาคารจะได้รับค่าธรรมเนียมซึ่งคิดเป็น 2.5% ของจำนวนเงินที่ชำระผ่านธุรกรรม ส่วนอัตราการเติบโตของธุรกรรมออนไลน์ที่มีอัตราการเติบโตมากกว่า 100% ต่อปี และในปีที่ผ่านมาธุรกรรมออนไลน์มีอัตราการเติบโตสูงถึง 156%
ด้านนายสมบูรณ์ ครบธีรนนท์ ผู้จัดการบริษัทวีซ่า ประจำประเทศไทย กล่าวว่า จากผลการสำรวจแนวโน้มและพฤติกรรมผู้บริโภคในการซื้อของออนไลน์ของวีซ่า พบว่า คนไทยมากกว่า 75% จับจ่ายเลือกซื้อสินค้าและบริการออนไลน์ โดยมีกลุ่มสินค้าหรือบริการยอดนิยม 5 ลำดับแรก คือ ตั๋วเครื่องบิน เสื้อผ้า/รองเท้า หนังสือ โรงแรม และการประมูลซื้อสินค้าออนไลน์
ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความพึงพอใจของผู้ซื้อของ ออนไลน์คือ ความปลอดภัย ความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ ราคา และคุณภาพของข้อมูลเกี่ยวกับสินค้า โดยกว่า 50% ของนักช็อปออนไลน์เป็นนักช็อปออนไลน์ข้ามประเทศ
“สำหรับผู้บริโภคกลุ่ม Gen-Y ซึ่งมีอายุระหว่าง 18-28 ปี ทางวีซ่าพบว่าพฤติกรรมการซื้อของออนไลน์มีระดับความนิยมที่แตกต่างกันในแต่ ละประเทศ แต่ “ความปลอดภัย” ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่สุด ตามด้วยการยอมรับและความสะดวก ทั้งนี้หากราคาสินค้าสูงขึ้น กลุ่ม Gen-Y มีแนวโน้มจะใช้เงินสดลดลง แต่บัตรเดบิต หรือบัตรเครดิตเพิ่มขึ้น โดยมีผู้บริโภคกลุ่ม Gen-Y มากกว่า 80% หวังว่าจะได้ใช้บริการซื้อ สินค้าและบริการ โดยชำระเงินผ่านระบบออนไลน์ทั้งหมด” นายสมบูรณ์ กล่าว
ขณะที่มร.ไมเคิล แบรดลี่ย์ กรรมการผู้จัดการ ไซเบอร์ซอร์ส เอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า เนื่องจากสิ่งที่ผู้ใช้บริการอีคอมเมิร์ซต่างคำนึงถึงเป็นอันดับแรก คือ ความปลอดภัย เทคโนโลยีของไซเบอร์ซอร์สจึงดูแลและจัดการความปลอดภัยในทุกขั้นตอน โดยเทคโนโลยีการชำระเงินของไซเบอร์ซอร์ส เชื่อมโยงผู้ประกอบการร้านค้าของธนาคารกรุงศรีอยุธยาเข้ากับระบบชำระเงิน ทั่วโลก และยังได้ช่วยผู้ประกอบการในการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลบนบัตรเครดิตและ เดบิต ผู้ประกอบการและร้านค้าที่เป็นลูกค้าของธนาคารกรุงศรี อยุธยาจะสามารถทำธุรกรรมออนไลน์ได้ด้วยความมั่นใจในความปลอดภัยขั้นสูงของ เทคโนโลยีดังกล่าว
ขอขอบคุณข้อมูล: siamturakij.com ลงวันที่ 30-06-2012 by creditonhand
มร.ฟิลลิป กล่าวว่า ธนาคารจะได้รับผลตอบแทนในการทำธุรกรรมผ่านระบบออนไลน์ ทั้งจากธุรกรรมการชำระเงินและค่าธรรมเนียมผ่านร้านค้า ที่ธนาคารจะได้รับค่าธรรมเนียมซึ่งคิดเป็น 2.5% ของจำนวนเงินที่ชำระผ่านธุรกรรม ส่วนอัตราการเติบโตของธุรกรรมออนไลน์ที่มีอัตราการเติบโตมากกว่า 100% ต่อปี และในปีที่ผ่านมาธุรกรรมออนไลน์มีอัตราการเติบโตสูงถึง 156%
ด้านนายสมบูรณ์ ครบธีรนนท์ ผู้จัดการบริษัทวีซ่า ประจำประเทศไทย กล่าวว่า จากผลการสำรวจแนวโน้มและพฤติกรรมผู้บริโภคในการซื้อของออนไลน์ของวีซ่า พบว่า คนไทยมากกว่า 75% จับจ่ายเลือกซื้อสินค้าและบริการออนไลน์ โดยมีกลุ่มสินค้าหรือบริการยอดนิยม 5 ลำดับแรก คือ ตั๋วเครื่องบิน เสื้อผ้า/รองเท้า หนังสือ โรงแรม และการประมูลซื้อสินค้าออนไลน์
ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความพึงพอใจของผู้ซื้อของ ออนไลน์คือ ความปลอดภัย ความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ ราคา และคุณภาพของข้อมูลเกี่ยวกับสินค้า โดยกว่า 50% ของนักช็อปออนไลน์เป็นนักช็อปออนไลน์ข้ามประเทศ
“สำหรับผู้บริโภคกลุ่ม Gen-Y ซึ่งมีอายุระหว่าง 18-28 ปี ทางวีซ่าพบว่าพฤติกรรมการซื้อของออนไลน์มีระดับความนิยมที่แตกต่างกันในแต่ ละประเทศ แต่ “ความปลอดภัย” ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่สุด ตามด้วยการยอมรับและความสะดวก ทั้งนี้หากราคาสินค้าสูงขึ้น กลุ่ม Gen-Y มีแนวโน้มจะใช้เงินสดลดลง แต่บัตรเดบิต หรือบัตรเครดิตเพิ่มขึ้น โดยมีผู้บริโภคกลุ่ม Gen-Y มากกว่า 80% หวังว่าจะได้ใช้บริการซื้อ สินค้าและบริการ โดยชำระเงินผ่านระบบออนไลน์ทั้งหมด” นายสมบูรณ์ กล่าว
ขณะที่มร.ไมเคิล แบรดลี่ย์ กรรมการผู้จัดการ ไซเบอร์ซอร์ส เอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า เนื่องจากสิ่งที่ผู้ใช้บริการอีคอมเมิร์ซต่างคำนึงถึงเป็นอันดับแรก คือ ความปลอดภัย เทคโนโลยีของไซเบอร์ซอร์สจึงดูแลและจัดการความปลอดภัยในทุกขั้นตอน โดยเทคโนโลยีการชำระเงินของไซเบอร์ซอร์ส เชื่อมโยงผู้ประกอบการร้านค้าของธนาคารกรุงศรีอยุธยาเข้ากับระบบชำระเงิน ทั่วโลก และยังได้ช่วยผู้ประกอบการในการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลบนบัตรเครดิตและ เดบิต ผู้ประกอบการและร้านค้าที่เป็นลูกค้าของธนาคารกรุงศรี อยุธยาจะสามารถทำธุรกรรมออนไลน์ได้ด้วยความมั่นใจในความปลอดภัยขั้นสูงของ เทคโนโลยีดังกล่าว
ขอขอบคุณข้อมูล: siamturakij.com ลงวันที่ 30-06-2012 by creditonhand
การบินไทยลงนามบันทึกข้อตกลงทางธุรกิจ
นายปานฑิต ชนะภัย ( ที่ 3 จากซ้าย ) รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายการพาณิชย์ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และ นายฮิโตชิ โยชิมัตซึ (ที่ 4 จากซ้าย) รองประธานกรรมการและผู้แทนกรรมการ บริษัท บัตรซูมิโตโม มิตซุย ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางธุรกิจจัดทำบัตรเครดิตคู่สัญญา รอยัล ออร์คิด พลัส — ซูมิโตโม มิตซุย โดยมีนายดุลยพงศ์ สุขานุศาสน์ (ที่ 2 จากซ้าย) ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายพันธมิตรและพัฒนาธุรกิจการพาณิชย์ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และ นายโยชิฮารุ ชิคามิ (ที่ 5 จากซ้าย) ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายจัดการธุรกิจองค์กร บริษัท บัตรซูมิโตโม มิตซุย ร่วมเป็นสักขีพยานณ สำนักงานใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)
บริษัท บัตรซูมิโดโม มิตซุย ( The Sumitomo Mitsui Card Company ) เป็นบริษัทหนึ่งในสามของผู้ให้บริการบัตรเครดิตที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น โดยความร่วมมือทางธุรกิจครั้งนี้จะช่วยผลักดันศักยภาพทางธุรกิจเป็นการขยายฐานลูกค้าภายในประเทศญี่ปุ่นที่นิยมการเดินทางกับการบินไทย รวมทั้งสร้างกลุ่มลูกค้าใหม่ ต่อไป
บริษัท บัตรซูมิโดโม มิตซุย ( The Sumitomo Mitsui Card Company ) เป็นบริษัทหนึ่งในสามของผู้ให้บริการบัตรเครดิตที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น โดยความร่วมมือทางธุรกิจครั้งนี้จะช่วยผลักดันศักยภาพทางธุรกิจเป็นการขยายฐานลูกค้าภายในประเทศญี่ปุ่นที่นิยมการเดินทางกับการบินไทย รวมทั้งสร้างกลุ่มลูกค้าใหม่ ต่อไป
ปัดฝุ่นบัตรเครดิต
ปัดฝุ่นบัตรเครดิต“ยูโอบีแบล็ก”หวังปั๊มยอด 50,000บัตร คาดภายในมีฐานบัตรเครดิต 1 ล้านบัตร
วันนี้ (13มิ.ย.) นายยุทธชัย เตยะราชกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บุคคลธนกิจ ธนาคารยูโอบี เปิดเผยว่า ธนาคารปรับโฉมบัตรเครดิต ยูโอบี แบล็กใหม่ โดยเพิ่มสิทธิ์ประโยชน์ ตอบความต้องการของสุภาพบุรุษ อายุระหว่าง 25-45 ปี เพราะลูกค้ากลุ่มนี้ชอบรับประทานอาหารนอกบ้าน และสังสรรค์กับเพื่อนหรือคนรู้จัก ตามร้านอาหาร ตามผับชื่อดังต่างๆ อยู่เป็นประจำ ซึ่งหลังจากที่ธนาคารได้ทำตลาดบัตรเครดิตแบบเฉพาะกลุ่ม ทั้งกลุ่มสุภาพบุรุษ และสุภาพสตรี ได้รับการตอบรับอย่างดีมาก มียอดใช้จ่าย 6,000-7,000 บาทต่อเดือน สูงกว่าบัตรเครดิตระดับล่าง ที่มียอดใช้จ่าย 4,000 บาทต่อเดือน
“สิทธิ์ประโยชน์ที่มอบให้ลูกค้า เช่น ส่วนลดร้านอาหาร และ 5 ผับชื่อดัง เช่นฮาร์ดร็อค และโรงเบียร์ตะวันแดง เพื่อตอบสนองความต้องการให้กับคนในกลุ่มนี้ คาดว่าจะขยายฐานลูกค้าใหม่ได้ 50,000 บัตร ซึ่งปัจุจุบัน ธนาคารมีฐานบัตรเครดิต 600,000 บัตร ตั้งเป้าอัตราการเติบโตปีละไม่ต่ำกว่า 10 % ซึ่งภายใน 3 ปี ข้างหน้าจะมีฐานบัตรเครดิต 800,000 บัตร และ 5 ปีข้างหน้าจะมีฐานบัตรเครดิต 1 ล้านบัตร ส่วนยอดสินเชื่อคงค้างของบัตรเครดิตปี 54 ที่ผ่านมาอยู่ที่ 9,000 ล้านบาท และในปีนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 10,000 ล้านบาท หรือเติบโต 12 %”
ทั้งนี้ธนาคารมุ่งเน้นเพิ่มฐานลูกค้าบัตรเครดิตระดับกลาง ทำให้ภายในระยะเวลา 3 ปี สัดส่วนการถือบัตรเครดิตตามกลุ่มลูกค้าระดับกลางเพิ่มขึ้นเป็น 60 % จากปัจจุบันอยู่ที่ 45 % กลุ่มลูกค้าระดับล่างจะลดลงเหลือ 30 % จากปัจจุบัน 35 % และกลุ่มลูกค้าระดับบนจากปัจจุบัน 20 % จะลดลงเหลือ 10 % ซึ่งธนาคารเป็นธนาคารขนาดกลาง การทำตลาดเน้นเฉพาะกลุ่ม จะสามารถให้สิทธิประโยชน์ได้มากกว่า และตรงกับความต้องการของผู้ถือบัตร
วันนี้ (13มิ.ย.) นายยุทธชัย เตยะราชกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บุคคลธนกิจ ธนาคารยูโอบี เปิดเผยว่า ธนาคารปรับโฉมบัตรเครดิต ยูโอบี แบล็กใหม่ โดยเพิ่มสิทธิ์ประโยชน์ ตอบความต้องการของสุภาพบุรุษ อายุระหว่าง 25-45 ปี เพราะลูกค้ากลุ่มนี้ชอบรับประทานอาหารนอกบ้าน และสังสรรค์กับเพื่อนหรือคนรู้จัก ตามร้านอาหาร ตามผับชื่อดังต่างๆ อยู่เป็นประจำ ซึ่งหลังจากที่ธนาคารได้ทำตลาดบัตรเครดิตแบบเฉพาะกลุ่ม ทั้งกลุ่มสุภาพบุรุษ และสุภาพสตรี ได้รับการตอบรับอย่างดีมาก มียอดใช้จ่าย 6,000-7,000 บาทต่อเดือน สูงกว่าบัตรเครดิตระดับล่าง ที่มียอดใช้จ่าย 4,000 บาทต่อเดือน
“สิทธิ์ประโยชน์ที่มอบให้ลูกค้า เช่น ส่วนลดร้านอาหาร และ 5 ผับชื่อดัง เช่นฮาร์ดร็อค และโรงเบียร์ตะวันแดง เพื่อตอบสนองความต้องการให้กับคนในกลุ่มนี้ คาดว่าจะขยายฐานลูกค้าใหม่ได้ 50,000 บัตร ซึ่งปัจุจุบัน ธนาคารมีฐานบัตรเครดิต 600,000 บัตร ตั้งเป้าอัตราการเติบโตปีละไม่ต่ำกว่า 10 % ซึ่งภายใน 3 ปี ข้างหน้าจะมีฐานบัตรเครดิต 800,000 บัตร และ 5 ปีข้างหน้าจะมีฐานบัตรเครดิต 1 ล้านบัตร ส่วนยอดสินเชื่อคงค้างของบัตรเครดิตปี 54 ที่ผ่านมาอยู่ที่ 9,000 ล้านบาท และในปีนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 10,000 ล้านบาท หรือเติบโต 12 %”
ทั้งนี้ธนาคารมุ่งเน้นเพิ่มฐานลูกค้าบัตรเครดิตระดับกลาง ทำให้ภายในระยะเวลา 3 ปี สัดส่วนการถือบัตรเครดิตตามกลุ่มลูกค้าระดับกลางเพิ่มขึ้นเป็น 60 % จากปัจจุบันอยู่ที่ 45 % กลุ่มลูกค้าระดับล่างจะลดลงเหลือ 30 % จากปัจจุบัน 35 % และกลุ่มลูกค้าระดับบนจากปัจจุบัน 20 % จะลดลงเหลือ 10 % ซึ่งธนาคารเป็นธนาคารขนาดกลาง การทำตลาดเน้นเฉพาะกลุ่ม จะสามารถให้สิทธิประโยชน์ได้มากกว่า และตรงกับความต้องการของผู้ถือบัตร
นายกเตรียมลุยอีสานเปิดบัตรเครดิตชาวนา
กรุงเทพฯ 9 มิ.ย. - นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า หลังจากได้ทำการทดลองนำร่องการใช้บัตรสินเชื่อเกษตรกรใน 5 จังหวัด กับเกษตรกร 5,000 ราย ถือว่าได้ผลดีเป็นที่น่าพอใจทั้งการออกบัตรให้เกษตรกรนำไปใช้ ในการใช้เครื่องรูดบัตรซื้อสินค้า การเรียกเก็บเงิน โดยมีระยะเวลาปลอดดอกเบี้ย 3 วัน ดังนั้นจึงพร้อมขยายโครงการไปยังจังหวัดต่างทั่วประเทศภายในสิ้นเดือนมิถุนายน หรือต้นเดือนกรกฎาคมนี้
สำหรับการใช้บัตรสินเชื่อเกษตรกรไปใช้รูกซื้อสินค้า เดิมกำหนดไว้ 3 ชนิด ได้แก่ เมล็ดพันธุ์พืช ยาปราบศัตรูพืช และปุ๋ยเคมี เพื่อให้เกษตรกรได้รับประโยชน์เพิ่มเติมจึงได้ให้นำบัตรไปใช้รูดซื้อน้ำมันจากปั๊มบางจาก และ ปตท. เพื่อให้เกษตรกรได้รับส่วนลด แต่การใช้บัตรเครดิตรูดซื้อน้ำมันกำลังเจรจาว่าจะให้ส่วนลดราคาน้ำมันหรือว่าช่วยลดดอกเบี้ยเงินกู้จากการใช้บัตรให้ยุติภายในวันที่ 20 มิถุนายนนี้ หลังได้ข้อสรุปชัดเจนจะลงนามร่วมกับสถานีน้ำมันทั้งสองแห่งภายในสิ้นเดือนมิถุนายนนี้
หลังจากนั้นได้กำหนดเชิญ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดโครงการบัตรสินเชื่อเกษตรกร ณ ทุ่งกุลาร้องไห้ จ.ร้อยเอ็ด เพื่อแจกบัตรเครดิตให้ชาวนาถึงพื้นที่ โดยจะนำร่องกับการปลูกข้าวในช่วงแรก จากนั้นจะขยายไปยังสินค้าประเภทอื่น ช่วงแรกแจกบัตรเครดิต 500,000 ใบ ในเดือนมิถุนายนส่วนอีก 500,000 ใบ แจกให้ได้ภายในเดือนกรกฎาคม เพื่อให้เกษตรกรได้รับบัตรสินเชื่อเกษตรกรไปใช้ในการปลูกข้าวนาปีฤดูการผลิตปี 55. – สำนักข่าวไทย
ขอขอบคุณข้อมูล: mcot.net ลงวันที่ 06-09-2012 by creditonhand
สำหรับการใช้บัตรสินเชื่อเกษตรกรไปใช้รูกซื้อสินค้า เดิมกำหนดไว้ 3 ชนิด ได้แก่ เมล็ดพันธุ์พืช ยาปราบศัตรูพืช และปุ๋ยเคมี เพื่อให้เกษตรกรได้รับประโยชน์เพิ่มเติมจึงได้ให้นำบัตรไปใช้รูดซื้อน้ำมันจากปั๊มบางจาก และ ปตท. เพื่อให้เกษตรกรได้รับส่วนลด แต่การใช้บัตรเครดิตรูดซื้อน้ำมันกำลังเจรจาว่าจะให้ส่วนลดราคาน้ำมันหรือว่าช่วยลดดอกเบี้ยเงินกู้จากการใช้บัตรให้ยุติภายในวันที่ 20 มิถุนายนนี้ หลังได้ข้อสรุปชัดเจนจะลงนามร่วมกับสถานีน้ำมันทั้งสองแห่งภายในสิ้นเดือนมิถุนายนนี้
หลังจากนั้นได้กำหนดเชิญ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดโครงการบัตรสินเชื่อเกษตรกร ณ ทุ่งกุลาร้องไห้ จ.ร้อยเอ็ด เพื่อแจกบัตรเครดิตให้ชาวนาถึงพื้นที่ โดยจะนำร่องกับการปลูกข้าวในช่วงแรก จากนั้นจะขยายไปยังสินค้าประเภทอื่น ช่วงแรกแจกบัตรเครดิต 500,000 ใบ ในเดือนมิถุนายนส่วนอีก 500,000 ใบ แจกให้ได้ภายในเดือนกรกฎาคม เพื่อให้เกษตรกรได้รับบัตรสินเชื่อเกษตรกรไปใช้ในการปลูกข้าวนาปีฤดูการผลิตปี 55. – สำนักข่าวไทย
ขอขอบคุณข้อมูล: mcot.net ลงวันที่ 06-09-2012 by creditonhand
เคทีซีฉลอง 5 ปี บัตรเครดิตเคทีซี ไทเทเนียม
เคทีซีคัดสรรสิทธิพิเศษ 3 ต่อ เติมเต็มสมาชิกในพื้นที่ภูมิภาค 13 จังหวัดหลัก ฉลองสู่ปีที่ 5 บัตรเครดิต เคทีซี ไทเทเนียม มาสเตอร์การ์ด ในกลุ่ม TDP สมาชิกบัตรทั่วไทยสามารถเลือกรับของสมนาคุณเมื่อใช้จ่ายครบตามกำหนด และแลกรับผลิตภัณฑ์มากมาย กับคะแนนสะสมเพียง 99 คะแนน คาดยอดใช้จ่ายในภูมิภาคเพิ่มขึ้น 10%
นายธีรพจน์ โชคอนันตัง ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานธุรกิจบัตรเครดิต “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ปีนี้เป็นปีที่ 5 ที่เคทีซีได้เปิดบัตรเครดิต เคทีซี ไทเทเนียม มาสเตอร์การ์ด ในกลุ่มห้างสรรพสินค้าไทย - TDP (Thailand Department Store Pool) ร่วมกับ 13 ห้างสรรพสินค้าชั้นนำตามหัวเมืองใหญ่ใน 13 จังหวัดหลักของประเทศ
ซึ่งมุ่งตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในทุกหมวดการใช้จ่ายกับสิทธิพิเศษจากร้านค้าทั่วประเทศ และสามารถใช้รับสิทธิ์ข้ามจังหวัดได้ โดยได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี มีสมาชิกบัตรถึงขณะนี้กว่า 30,000 ราย มียอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเฉลี่ยต่อเดือนประมาณหนึ่งหมื่นบาท ในปีนี้เราจึงมอบสิทธิพิเศษให้แก่สมาชิกบัตรได้สัมผัสถึงความคุ้มค่าของการใช้บัตรอย่างต่อเนื่องกับโปรโมชั่นเด็ดถึง 3 ต่อ
ต่อที่ 1 เลือกรับของสมนาคุณสุดคุ้ม เพียงใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในกลุ่ม TDP ครบ 500 บาท หรือ 700 บาท หรือ 1,000 บาทต่อเซลส์สลิป เลือกรับของสมนาคุณ ได้แก่ แลคตาซอย เอ็กซ์ตร้า 300 / ถั่วโก๋แก่ / หอยลายอบกรอบปุ้มปุ้ย / ข้าวเกรียบกุ้งฮานามิ / ผงซักฟอกเปา สูตรนาโนเทค และยาสีฟันสมุนไพรดอกบัวคู่ ทันทีตามที่กำหนด และรับเพิ่มอีก 1 ชิ้น เพียงแลกด้วย 99 คะแนนสะสม KTC Forever Rewards
ต่อที่ 2 รับของสมนาคุณเพิ่มอีก 2 ชุด เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในกลุ่ม TDP ครบ 1,500 บาท กับ ชุดที่ 1 แลคตาซอย ผงซักฟอกเปา และหอยลายอบกรอบปุ้มปุ้ย และชุดที่ 2 ถั่วโก๋แก่ ข้าวเกรียบกุ้งฮานามิ และ ยาสีฟันสมุนไพรดอกบัวคู่
ต่อที่ 3 รับส่วนลดสูงสุด 5–15% เมื่อใช้จ่ายบัตรเครดิตในกลุ่ม TDP ผ่านเคาน์เตอร์ปกติที่ร่วมรายการ
นอกจากนี้ สมาชิกบัตรเครดิตในกลุ่ม TDP ยังสามารถใช้คะแนนสะสม KTC Forever Rewards 1,000 คะแนนแทนเงินสด 100 บาท เพื่อซื้อสินค้าในห้างสรรพสินค้าที่ร่วมรายการได้อีกด้วย ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 เมษายน 2556 ซึ่งโปรโมชั่นดังกล่าวยังเพิ่มความสะดวกสบายและคล่องตัวให้กับสมาชิกที่อาศัยในพื้นที่ต่างจังหวัดมากขึ้น และสามารถนำไปใช้ใน 6 ห้างสรรพสินค้าประจำจังหวัดในหัวเมืองสำคัญเพิ่มเติม
ได้แก่ นาซ่า ช้อปปิ้งมอลล์ จ.สุพรรณบุรี กนกกาญจน์ จ.กาญจนบุรี อินฟินิท มอลล์ จ.สมุทรปราการ ไชยแสง จ.สิงห์บุรี แจ่มฟ้า พลาซ่า จ.ลำพูน และไดอาน่า คอมเพล็กซ์ จ.สงขลา นอกเหนือจากห้างสรรพสินค้าในกลุ่มห้างฯ TDP แล้ว โดยคาดว่า ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรจะเพิ่มขึ้น 10 %”
ขอบคุณข้อมูล: bangkokbiznews.com/ ลงวันที่ 2-06-2012 by creditonhand
นายธีรพจน์ โชคอนันตัง ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานธุรกิจบัตรเครดิต “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ปีนี้เป็นปีที่ 5 ที่เคทีซีได้เปิดบัตรเครดิต เคทีซี ไทเทเนียม มาสเตอร์การ์ด ในกลุ่มห้างสรรพสินค้าไทย - TDP (Thailand Department Store Pool) ร่วมกับ 13 ห้างสรรพสินค้าชั้นนำตามหัวเมืองใหญ่ใน 13 จังหวัดหลักของประเทศ
ซึ่งมุ่งตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในทุกหมวดการใช้จ่ายกับสิทธิพิเศษจากร้านค้าทั่วประเทศ และสามารถใช้รับสิทธิ์ข้ามจังหวัดได้ โดยได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี มีสมาชิกบัตรถึงขณะนี้กว่า 30,000 ราย มียอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเฉลี่ยต่อเดือนประมาณหนึ่งหมื่นบาท ในปีนี้เราจึงมอบสิทธิพิเศษให้แก่สมาชิกบัตรได้สัมผัสถึงความคุ้มค่าของการใช้บัตรอย่างต่อเนื่องกับโปรโมชั่นเด็ดถึง 3 ต่อ
ต่อที่ 1 เลือกรับของสมนาคุณสุดคุ้ม เพียงใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในกลุ่ม TDP ครบ 500 บาท หรือ 700 บาท หรือ 1,000 บาทต่อเซลส์สลิป เลือกรับของสมนาคุณ ได้แก่ แลคตาซอย เอ็กซ์ตร้า 300 / ถั่วโก๋แก่ / หอยลายอบกรอบปุ้มปุ้ย / ข้าวเกรียบกุ้งฮานามิ / ผงซักฟอกเปา สูตรนาโนเทค และยาสีฟันสมุนไพรดอกบัวคู่ ทันทีตามที่กำหนด และรับเพิ่มอีก 1 ชิ้น เพียงแลกด้วย 99 คะแนนสะสม KTC Forever Rewards
ต่อที่ 2 รับของสมนาคุณเพิ่มอีก 2 ชุด เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในกลุ่ม TDP ครบ 1,500 บาท กับ ชุดที่ 1 แลคตาซอย ผงซักฟอกเปา และหอยลายอบกรอบปุ้มปุ้ย และชุดที่ 2 ถั่วโก๋แก่ ข้าวเกรียบกุ้งฮานามิ และ ยาสีฟันสมุนไพรดอกบัวคู่
ต่อที่ 3 รับส่วนลดสูงสุด 5–15% เมื่อใช้จ่ายบัตรเครดิตในกลุ่ม TDP ผ่านเคาน์เตอร์ปกติที่ร่วมรายการ
นอกจากนี้ สมาชิกบัตรเครดิตในกลุ่ม TDP ยังสามารถใช้คะแนนสะสม KTC Forever Rewards 1,000 คะแนนแทนเงินสด 100 บาท เพื่อซื้อสินค้าในห้างสรรพสินค้าที่ร่วมรายการได้อีกด้วย ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 เมษายน 2556 ซึ่งโปรโมชั่นดังกล่าวยังเพิ่มความสะดวกสบายและคล่องตัวให้กับสมาชิกที่อาศัยในพื้นที่ต่างจังหวัดมากขึ้น และสามารถนำไปใช้ใน 6 ห้างสรรพสินค้าประจำจังหวัดในหัวเมืองสำคัญเพิ่มเติม
ได้แก่ นาซ่า ช้อปปิ้งมอลล์ จ.สุพรรณบุรี กนกกาญจน์ จ.กาญจนบุรี อินฟินิท มอลล์ จ.สมุทรปราการ ไชยแสง จ.สิงห์บุรี แจ่มฟ้า พลาซ่า จ.ลำพูน และไดอาน่า คอมเพล็กซ์ จ.สงขลา นอกเหนือจากห้างสรรพสินค้าในกลุ่มห้างฯ TDP แล้ว โดยคาดว่า ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรจะเพิ่มขึ้น 10 %”
ขอบคุณข้อมูล: bangkokbiznews.com/ ลงวันที่ 2-06-2012 by creditonhand
ธ.ก.ส.เปิดใช้บัตรเครดิตเกษตรกรซื้อน้ำมัน ปตท. -บางจาก
ธ.ก.ส.สำนักงานใหญ่ 23 พ.ค. - ธ.ก.ส.ขยายการใช้บัตรเครดิตเกษตรกรสำหรับซื้อน้ำมันในสถานีบริการของ ปตท. และบางจากฯ เพื่อให้เกษตรกรผู้ใช้บัตรได้รับประโยชน์มากขึ้น
นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า ได้หารือกับกระทรวงการคลังและเจรจากับผู้บริหาร ปตท. และบางจากฯ แล้ว ได้ข้อสรุปว่า จากกำหนดเดิมให้เกษตรกรใช้บัตรเครดิตเกษตรกรซื้อสินค้า 3 ชนิด คือ เมล็ดพันธุ์พืช ยาปราบศัตรูพืช ปุ๋ยเคมี แต่เพื่อให้เกษตรกรผู้ใช้บัตรได้รับประโยชน์มากขึ้น จึงขยายการใช้บัตรเครดิตสำหรับซื้อน้ำมันในสถานีบริการของ ปตท. และบางจากฯ โดยกำหนดวงเงินให้ประมาณร้อยละ 60-80 ของผลผลิตในแต่ละปี โดยได้รับส่วนลดจากการซื้อน้ำมันร้อยละ 5-10 ซึ่งเตรียมเชิญ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 16 มิถุนายน 2555 เพื่อเริ่มแจกบัตรสินเชื่อ 1 ล้านใบทั่วประเทศ ให้แก่เกษตรกร. - สำนักข่าวไทย
นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า ได้หารือกับกระทรวงการคลังและเจรจากับผู้บริหาร ปตท. และบางจากฯ แล้ว ได้ข้อสรุปว่า จากกำหนดเดิมให้เกษตรกรใช้บัตรเครดิตเกษตรกรซื้อสินค้า 3 ชนิด คือ เมล็ดพันธุ์พืช ยาปราบศัตรูพืช ปุ๋ยเคมี แต่เพื่อให้เกษตรกรผู้ใช้บัตรได้รับประโยชน์มากขึ้น จึงขยายการใช้บัตรเครดิตสำหรับซื้อน้ำมันในสถานีบริการของ ปตท. และบางจากฯ โดยกำหนดวงเงินให้ประมาณร้อยละ 60-80 ของผลผลิตในแต่ละปี โดยได้รับส่วนลดจากการซื้อน้ำมันร้อยละ 5-10 ซึ่งเตรียมเชิญ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 16 มิถุนายน 2555 เพื่อเริ่มแจกบัตรสินเชื่อ 1 ล้านใบทั่วประเทศ ให้แก่เกษตรกร. - สำนักข่าวไทย
"บางจาก" พร้อมรับบัตรเครดิตชาวนารูดซื้อน้ำมันผ่านแบงก์ธ.ก.ส. เล็งหารือรายละเอียดกับ ก.คลัง ก่อนใช้จริง พร้อมคาดครึ่งปีหลังดีเซลอยู่ที่ระดับ 29-32 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 91 ราคา 35-37 บาทต่อลิตร
นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.บริษัท บางจากปิโตรเลียม เปิดเผยว่า บางจากพร้อมให้การสนับสนุนโครงการจัดทำบัตรสินเชื่อการเกษตร (บัตรเครดิตชาวนา) เพื่อนำมาซื้อน้ำมัน ถือเป็นเรื่องที่รัฐบาลพยายามหาแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรที่มีภาระต้นทุนพลังงาน ซึ่งปัจจุบันบางจากฯ ก็มีการออกบัตรแก๊สโซฮอล์คลับและดีเซลอยู่แล้วเพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย ดังนั้นหากนำบัตรดังกล่าวมาใช้ร่วมกันก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่ทั้งนี้ต้องหารือรายละเอียดร่วมกับกระทรวงการคลังและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ก่อน สำหรับแนวโน้มราคาน้ำมันนั้น ในระยะสั้นคาดว่าราคาน้ำมันยังมีโอกาสอ่อนตัวลงได้อีก จากสถานการณ์ทางการเมืองที่ไม่แน่นอนในกรีซโดยน้ำมันดิบดูไบจะอยู่ที่ 90-94 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และน้ำมันดิบเบรนต์อยู่ที่ 110 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ส่วนในครึ่งปีหลังคาดว่าราคาน้ำมันดิบดูไบจะอยู่ที่ 105-112 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล จากปัจจุบันที่มีราคา 107 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล โดยราคาน้ำมันมีโอกาสปรับสูงขึ้นได้อีกครั้งในไตรมาส 4 เนื่องจากเข้าสู่ช่วงฤดูหนาวในต่างประเทศ
ส่วนราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศ ครึ่งปีหลังราคาน้ำมันดีเซลจะอยู่ในระดับ 29-32 บาทต่อลิตร โดยมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 30 บาท และในช่วงปลายปีอาจจะแตะที่ 32 บาท ส่วนราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 จะอยู่ในระดับ 35-37 บาทต่อลิตร.
ขอบคุณข้อมูล: thaipost.net/news/180512/56988 ลงวันที่ 19-05-2012 by creditonhand
นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.บริษัท บางจากปิโตรเลียม เปิดเผยว่า บางจากพร้อมให้การสนับสนุนโครงการจัดทำบัตรสินเชื่อการเกษตร (บัตรเครดิตชาวนา) เพื่อนำมาซื้อน้ำมัน ถือเป็นเรื่องที่รัฐบาลพยายามหาแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรที่มีภาระต้นทุนพลังงาน ซึ่งปัจจุบันบางจากฯ ก็มีการออกบัตรแก๊สโซฮอล์คลับและดีเซลอยู่แล้วเพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย ดังนั้นหากนำบัตรดังกล่าวมาใช้ร่วมกันก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่ทั้งนี้ต้องหารือรายละเอียดร่วมกับกระทรวงการคลังและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ก่อน สำหรับแนวโน้มราคาน้ำมันนั้น ในระยะสั้นคาดว่าราคาน้ำมันยังมีโอกาสอ่อนตัวลงได้อีก จากสถานการณ์ทางการเมืองที่ไม่แน่นอนในกรีซโดยน้ำมันดิบดูไบจะอยู่ที่ 90-94 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และน้ำมันดิบเบรนต์อยู่ที่ 110 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ส่วนในครึ่งปีหลังคาดว่าราคาน้ำมันดิบดูไบจะอยู่ที่ 105-112 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล จากปัจจุบันที่มีราคา 107 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล โดยราคาน้ำมันมีโอกาสปรับสูงขึ้นได้อีกครั้งในไตรมาส 4 เนื่องจากเข้าสู่ช่วงฤดูหนาวในต่างประเทศ
ส่วนราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศ ครึ่งปีหลังราคาน้ำมันดีเซลจะอยู่ในระดับ 29-32 บาทต่อลิตร โดยมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 30 บาท และในช่วงปลายปีอาจจะแตะที่ 32 บาท ส่วนราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 จะอยู่ในระดับ 35-37 บาทต่อลิตร.
ขอบคุณข้อมูล: thaipost.net/news/180512/56988 ลงวันที่ 19-05-2012 by creditonhand
กสิกรอัดแคมเปญกระตุ้นใช้บัตรเครดิต
กสิกรไทยระเบิดแคมเปญ “ช็อป 1,000 คืน 1,000” กับ 3 ห้างดัง หวังกระตุ้นลูกค้าใช้บัตรเครดิตต่อเนื่องทั้งปี ตั้งเป้าเพิ่มบัตรใหม่ปีนี้อีก 500,000 ใบ ด้านเคทีซีช่วยผู้ปกครองแบ่งเบาภาระค่าเทอม ผ่อนสบายๆ 0% และ 0.69% นาน 10 เดือน
นายปกรณ์ พรรธนะแพทย์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) เปิดเผยว่า ธนาคารออกแคมเปญ “ศุกร์ สุข สุดๆ” สำหรับลูกค้าที่ใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตกสิกรไทยใน 3 ห้างสรรพสินค้า ประกอบด้วย เซ็นทรัล สาขาชิดลม, พารากอน และโรบินสัน สาขาพระราม 9 ด้วยสิทธิพิเศษ ช็อป 1,000 บาท จะได้รับบัตรของขวัญมูลค่า 1,000 บาท สำหรับ 1,000 ท่านแรกทุกวันศุกร์ตลอดทั้งปี เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายผ่านบัตร
ทั้งนี้ ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2555 นี้ ธนาคารสามารถขยายลูกค้าบัตรเครดิตใหม่ได้จำนวน 200,000 บัตร เติบโตเพิ่มขึ้น 70% จากระยะเดียวกันปีก่อน จากเป้าทั้งปีที่ตั้งไว้ 500,000 บัตร ดังนั้นในสิ้นปี 2555 นี้ฐานบัตรจะมีจำนวน 2,370,000 บัตร หรือเพิ่มขึ้น 20% จากปี 2554 โดยมียอดการใช้จ่ายสม่ำเสมอที่ 71% ของบัตรทั้งหมด และธนาคารวางเป้าเพิ่มสัดส่วนเป็น 75% ภายในปีนี้
นายปกรณ์กล่าวว่า ปัจจุบันธนาคารมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรเฉลี่ยที่ 16,000 บาทต่อบัตรต่อเดือน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 14,000 บาทต่อบัตรต่อเดือน สูงกว่าอุตสาหกรรมซึ่งอยู่ที่ 10,000 บาทต่อบัตรต่อเดือนขณะที่มีเป้าหมายเพิ่มยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรในปี 2555 เป็น 205,000 ล้านบาท หรือเติบโตจากปีที่แล้ว 36% ทำให้บัตรเครดิตกสิกรไทยยังคงเป็นบัตรเครดิตอันดับหนึ่งที่ลูกค้าใช้จ่าย ผ่านบัตรมากที่สุดด้วยส่วนแบ่งตลาด 19% เฉพาะ 4 เดือนแรกมีการเติบโตแล้ว 30% อย่างไรก็ตามในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2555 นี้มีบัตรใหม่ มีการใช้จ่ายผ่านบัตรทำให้ธนาคารสามารถสร้างรายได้ค่าธรรมเนียมเติบโตแล้ว 25% ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ทั้งปีซึ่งคิดเป็นมูลค่า 3,600 ล้านบาท เทียบกับปี 2554 ที่ทำได้ 3,000 ล้านบาท
นายวรวุฒิ นิสภกุลธร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานธุรกิจบัตรเครดิต บริษัท บัตรกรุงไทย (KTC) กล่าวว่า บริษัทจัดแคมเปญผ่อนชำระเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าเล่าเรียนทุกระดับ ผ่านบัตรเครดิตเคทีซีในสถาบันการศึกษาที่ติดตั้งเครื่องรูดบัตรของเคทีซี ตั้งแต่ 3,000 บาทขึ้นไป โดยสามารถแบ่งชำระผ่านระบบ KTC Flexi ด้วยอัตราดอกเบี้ยพิเศษเพียง 0% และ 0.69% นานสูงสุดถึง 10 เดือน ตั้งแต่วันนี้ - 31 ธ.ค. และพิเศษรับเงินคืน 300 บาท สำหรับสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซี 100 ท่านแรก ที่แบ่งชำระค่าเทอมตั้งแต่ 10,000 บาทขึ้นไป ตั้งแต่วันนี้ - 30 มิ.ย. 2555.
ขอขอบคุณข้อมูล: thaipost.net/news/110512/56652 ลงวันที่ 12-05-2012 by creditonhand
นายปกรณ์ พรรธนะแพทย์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) เปิดเผยว่า ธนาคารออกแคมเปญ “ศุกร์ สุข สุดๆ” สำหรับลูกค้าที่ใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตกสิกรไทยใน 3 ห้างสรรพสินค้า ประกอบด้วย เซ็นทรัล สาขาชิดลม, พารากอน และโรบินสัน สาขาพระราม 9 ด้วยสิทธิพิเศษ ช็อป 1,000 บาท จะได้รับบัตรของขวัญมูลค่า 1,000 บาท สำหรับ 1,000 ท่านแรกทุกวันศุกร์ตลอดทั้งปี เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายผ่านบัตร
ทั้งนี้ ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2555 นี้ ธนาคารสามารถขยายลูกค้าบัตรเครดิตใหม่ได้จำนวน 200,000 บัตร เติบโตเพิ่มขึ้น 70% จากระยะเดียวกันปีก่อน จากเป้าทั้งปีที่ตั้งไว้ 500,000 บัตร ดังนั้นในสิ้นปี 2555 นี้ฐานบัตรจะมีจำนวน 2,370,000 บัตร หรือเพิ่มขึ้น 20% จากปี 2554 โดยมียอดการใช้จ่ายสม่ำเสมอที่ 71% ของบัตรทั้งหมด และธนาคารวางเป้าเพิ่มสัดส่วนเป็น 75% ภายในปีนี้
นายปกรณ์กล่าวว่า ปัจจุบันธนาคารมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรเฉลี่ยที่ 16,000 บาทต่อบัตรต่อเดือน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 14,000 บาทต่อบัตรต่อเดือน สูงกว่าอุตสาหกรรมซึ่งอยู่ที่ 10,000 บาทต่อบัตรต่อเดือนขณะที่มีเป้าหมายเพิ่มยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรในปี 2555 เป็น 205,000 ล้านบาท หรือเติบโตจากปีที่แล้ว 36% ทำให้บัตรเครดิตกสิกรไทยยังคงเป็นบัตรเครดิตอันดับหนึ่งที่ลูกค้าใช้จ่าย ผ่านบัตรมากที่สุดด้วยส่วนแบ่งตลาด 19% เฉพาะ 4 เดือนแรกมีการเติบโตแล้ว 30% อย่างไรก็ตามในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2555 นี้มีบัตรใหม่ มีการใช้จ่ายผ่านบัตรทำให้ธนาคารสามารถสร้างรายได้ค่าธรรมเนียมเติบโตแล้ว 25% ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ทั้งปีซึ่งคิดเป็นมูลค่า 3,600 ล้านบาท เทียบกับปี 2554 ที่ทำได้ 3,000 ล้านบาท
นายวรวุฒิ นิสภกุลธร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานธุรกิจบัตรเครดิต บริษัท บัตรกรุงไทย (KTC) กล่าวว่า บริษัทจัดแคมเปญผ่อนชำระเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าเล่าเรียนทุกระดับ ผ่านบัตรเครดิตเคทีซีในสถาบันการศึกษาที่ติดตั้งเครื่องรูดบัตรของเคทีซี ตั้งแต่ 3,000 บาทขึ้นไป โดยสามารถแบ่งชำระผ่านระบบ KTC Flexi ด้วยอัตราดอกเบี้ยพิเศษเพียง 0% และ 0.69% นานสูงสุดถึง 10 เดือน ตั้งแต่วันนี้ - 31 ธ.ค. และพิเศษรับเงินคืน 300 บาท สำหรับสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซี 100 ท่านแรก ที่แบ่งชำระค่าเทอมตั้งแต่ 10,000 บาทขึ้นไป ตั้งแต่วันนี้ - 30 มิ.ย. 2555.
ขอขอบคุณข้อมูล: thaipost.net/news/110512/56652 ลงวันที่ 12-05-2012 by creditonhand
ทลายแก็งบัลแกเรียบัตรเครดิต
ศปอช.จับ 5 ผู้ต้องหาชาวบัลแกเรียแก๊งปลอมบัตรเครดิต
พล.ต.ต.จำนงค์ รัตนกุล ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พร้อมกำลังตำรวจศูนย์ประสานงานป้อง กันปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ภ.จว.ชลบุรี หรือ ศปอช. แถลงผลกุมแก๊งปลอมบัตรเคร ดิต ได้ผู้ต้องหาสัญชาติบัลแกเลียรวม 5 คน ประกอบด้วย นายสเตฟาน นิโคเลียฟ ซาโวฟสกี้ นายอิลิยาน อเล็กซานดรอฟ อินินสกี้ นายพลาเมน อิวานอฟ เฮปบารอฟ น.ส.ไดอะน่า ไดโนวา ดิมิทโทรวา และ น.ส.เจอกานา ฮริสโตวา เกร็ก มาโนวา พร้อมของกลางบัตรอิเล็กทรอนิกส์ ปลอม รวม 33 ใบ
พล.ต.ต.จำนงค์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ทางตำรวจ ศปอช.ภ.จว.ชลบุรี ได้รับแจ้งจากพนักงานธนาคารไทยพาณิชย์ ว่า นายสเตฟาน ได้นำบัตรเครดิตปลอมมากดเงินที่ตู้เอทีเอ็มของธนาคาร บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อเซเว่นอี เลฟเว่น ในซอยโพธิสัมพันธ์ ถ.พัทยา-นาเกลือ จึงนำกำลังไปจับกุม และทำการขยายผลจนสามารถรวบ ผู้ต้องหาที่เหลือพร้อมกับยึดของกลางบัตรเครดิตปลอมหลายสิบใบ
จากการสอบสวนนายสเตฟาน ให้การรับสารภาพว่า บัตรเครดิตดังกล่าวมีชาวบัลแกเรียอีกกลุ่ม หนึ่งขโมยข้อมูลในบัตรจากเหยื่อแล้วทำปลอมแปลงขึ้นมา ก่อนที่จะใช้ให้พวกเขานำมากดเงินที่ประเทศไทยโดยจะได้รับค่าจ้างเป็นเงินจำนวน 10 เปอร์เซ็นต์ จากเงินที่กดได้ทั้งหมด ซึ่งเมื่อได้เงินมาแล้วก็จะส่ง กลับไปให้หัวหน้าแก๊งในประเทศบัลแกเรีย ผ่านทางบริษัทโอนเงินเวสเทิร์นยูเนี่ยน จนมาถูกจับกุมดังกล่าว
ขอขอบคุณข้อมูล:เดลินิวส์ ลงวันที่ 7-04-2012 by creditonhand
พล.ต.ต.จำนงค์ รัตนกุล ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พร้อมกำลังตำรวจศูนย์ประสานงานป้อง กันปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ภ.จว.ชลบุรี หรือ ศปอช. แถลงผลกุมแก๊งปลอมบัตรเคร ดิต ได้ผู้ต้องหาสัญชาติบัลแกเลียรวม 5 คน ประกอบด้วย นายสเตฟาน นิโคเลียฟ ซาโวฟสกี้ นายอิลิยาน อเล็กซานดรอฟ อินินสกี้ นายพลาเมน อิวานอฟ เฮปบารอฟ น.ส.ไดอะน่า ไดโนวา ดิมิทโทรวา และ น.ส.เจอกานา ฮริสโตวา เกร็ก มาโนวา พร้อมของกลางบัตรอิเล็กทรอนิกส์ ปลอม รวม 33 ใบ
พล.ต.ต.จำนงค์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ทางตำรวจ ศปอช.ภ.จว.ชลบุรี ได้รับแจ้งจากพนักงานธนาคารไทยพาณิชย์ ว่า นายสเตฟาน ได้นำบัตรเครดิตปลอมมากดเงินที่ตู้เอทีเอ็มของธนาคาร บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อเซเว่นอี เลฟเว่น ในซอยโพธิสัมพันธ์ ถ.พัทยา-นาเกลือ จึงนำกำลังไปจับกุม และทำการขยายผลจนสามารถรวบ ผู้ต้องหาที่เหลือพร้อมกับยึดของกลางบัตรเครดิตปลอมหลายสิบใบ
จากการสอบสวนนายสเตฟาน ให้การรับสารภาพว่า บัตรเครดิตดังกล่าวมีชาวบัลแกเรียอีกกลุ่ม หนึ่งขโมยข้อมูลในบัตรจากเหยื่อแล้วทำปลอมแปลงขึ้นมา ก่อนที่จะใช้ให้พวกเขานำมากดเงินที่ประเทศไทยโดยจะได้รับค่าจ้างเป็นเงินจำนวน 10 เปอร์เซ็นต์ จากเงินที่กดได้ทั้งหมด ซึ่งเมื่อได้เงินมาแล้วก็จะส่ง กลับไปให้หัวหน้าแก๊งในประเทศบัลแกเรีย ผ่านทางบริษัทโอนเงินเวสเทิร์นยูเนี่ยน จนมาถูกจับกุมดังกล่าว
ขอขอบคุณข้อมูล:เดลินิวส์ ลงวันที่ 7-04-2012 by creditonhand
แฉแฮกเกอร์ขโมยเลขบัตรเครดิตจาก Xbox360 เก่าได้
ผู้เชี่ยวชาญออกโรงเตือนเจ้าของเครื่อง Xbox360 ที่เคยใส่ข้อมูลบัตรเครดิตลงไปในเครื่อง หลังพบช่องโหว่ในการกู้คืนฮาร์ดดิสค์จากเครื่องเก่าได้แม้จะใช้วิธีสั่งฟอร์แมตล้างข้อมูลหรือรีเซ็ตค่าทุกอย่างกลับไปเหมือนตอนออกจากโรงงานก็ตาม
กลุ่มนักวิจัยจากหลายมหาวิทยาลัยนำโดย Ashley Podhradsky และคณะได้ทดลองซื้อเครื่อง Xbox360 เก่าซ่อมใหม่จากตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของไมโครซอฟท์เองเมื่อปีที่ผ่านมา จากนั้นก็ดาวน์โหลดโปรแกรมแก้ไขเจาะข้อมูลแบบง่ายๆมาทดลองใช้กับฮาร์ดดิสค์บนเครื่องดังกล่าว
หลังการศึกษาอยู่พักหนึ่ง พวกเขาก็สามารถเข้าถึงไฟล์และโฟลเดอร์ต่างๆได้ รวมถึงข้อมูลที่ควรจะถูกลบไปแล้วอย่างหมายเลขบัตรเครดิตของผู้ใช้เครื่องคนก่อนหน้าและรายละเอียดส่วนตัวอื่นๆ โดยที่พวกเขาเองไม่ใช่นักเจาะมืออาชีพด้วยซ้ำ
Podhradsky กล่าวว่าตัวเธอเองไม่ใช่นักเล่นเกม หากเป็นแฮกเกอร์หรือผู้เชี่ยวชาญการดัดแปลงเครื่องคงทำได้ง่ายกว่านี้อีก มีคนจำนวนมากรู้เรื่องนี้และไม่ว่าใครก็สามารถดาวน์โหลดซอฟท์แวร์ หาเครื่องเกมเก่าที่ถูกทิ้ง แล้วขโมยข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้คนเดิมได้ทันที
เธอระบุว่ามาตรการหละหลวมของไมโครซอฟท์ผู้จัดจำหน่ายเครื่อง Xbox360 อาจสร้างอันตรายต่อความเป็นส่วนตัวของลูกค้า และแม้จะทำได้ยอดเยี่ยมกับการปกป้องข้อมูลสำคัญของทางไมโครซอฟท์เอง แต่ผู้ใช้ทั่วไปกลับไม่ได้รับการคุ้มครองที่ดีนัก
สำหรับผู้ที่ต้องการกำจัดเครื่อง Xbox360 ของตนเองโดยที่ไม่เสี่ยงต่อการสูญเสียข้อมูลความเป็นส่วนตัว Podhradsky แนะนำว่าควรจะถอดฮาร์ดดิสค์ออกมาจากเครื่อง ต่อเข้ากับพีซีแล้วใช้โปรแกรมช่วยลบข้อมูลแบบสิ้นซาก เพราะการฟอร์แมตฮาร์ดดิสค์อย่างเดียวยังไม่เพียงพอ
เธอปิดท้ายว่า "ไมโครซอฟท์มีรูปแบบการทำงานอย่างนี้มานานแล้ว อย่างเวลาคุณฟอร์แมตวินโดว์แล้วมันบอกว่าข้อมูลทุกอย่างจะถูกลบ ที่จริงก็ไม่ตรงนัก ข้อมูลยังคงเปิดให้เข้าถึงได้อยู่ เพราะอย่างนั้นถ้าไมโครซอฟท์บอกว่าคุณกำลังรีเซ็ตอะไรสักอย่าง มันก็คงไม่ตรงกับความจริง"
ทางเว็บไซต์ต้นเรื่อง Kotaku ได้ติดต่อไปยังไมโครซอฟท์เพื่อขอคำชี้แจงในเรื่องดังกล่าว แต่ก็ยังไม่มีการตอบกลับมาแต่อย่างใด
กลุ่มนักวิจัยจากหลายมหาวิทยาลัยนำโดย Ashley Podhradsky และคณะได้ทดลองซื้อเครื่อง Xbox360 เก่าซ่อมใหม่จากตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของไมโครซอฟท์เองเมื่อปีที่ผ่านมา จากนั้นก็ดาวน์โหลดโปรแกรมแก้ไขเจาะข้อมูลแบบง่ายๆมาทดลองใช้กับฮาร์ดดิสค์บนเครื่องดังกล่าว
หลังการศึกษาอยู่พักหนึ่ง พวกเขาก็สามารถเข้าถึงไฟล์และโฟลเดอร์ต่างๆได้ รวมถึงข้อมูลที่ควรจะถูกลบไปแล้วอย่างหมายเลขบัตรเครดิตของผู้ใช้เครื่องคนก่อนหน้าและรายละเอียดส่วนตัวอื่นๆ โดยที่พวกเขาเองไม่ใช่นักเจาะมืออาชีพด้วยซ้ำ
Podhradsky กล่าวว่าตัวเธอเองไม่ใช่นักเล่นเกม หากเป็นแฮกเกอร์หรือผู้เชี่ยวชาญการดัดแปลงเครื่องคงทำได้ง่ายกว่านี้อีก มีคนจำนวนมากรู้เรื่องนี้และไม่ว่าใครก็สามารถดาวน์โหลดซอฟท์แวร์ หาเครื่องเกมเก่าที่ถูกทิ้ง แล้วขโมยข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้คนเดิมได้ทันที
เธอระบุว่ามาตรการหละหลวมของไมโครซอฟท์ผู้จัดจำหน่ายเครื่อง Xbox360 อาจสร้างอันตรายต่อความเป็นส่วนตัวของลูกค้า และแม้จะทำได้ยอดเยี่ยมกับการปกป้องข้อมูลสำคัญของทางไมโครซอฟท์เอง แต่ผู้ใช้ทั่วไปกลับไม่ได้รับการคุ้มครองที่ดีนัก
สำหรับผู้ที่ต้องการกำจัดเครื่อง Xbox360 ของตนเองโดยที่ไม่เสี่ยงต่อการสูญเสียข้อมูลความเป็นส่วนตัว Podhradsky แนะนำว่าควรจะถอดฮาร์ดดิสค์ออกมาจากเครื่อง ต่อเข้ากับพีซีแล้วใช้โปรแกรมช่วยลบข้อมูลแบบสิ้นซาก เพราะการฟอร์แมตฮาร์ดดิสค์อย่างเดียวยังไม่เพียงพอ
เธอปิดท้ายว่า "ไมโครซอฟท์มีรูปแบบการทำงานอย่างนี้มานานแล้ว อย่างเวลาคุณฟอร์แมตวินโดว์แล้วมันบอกว่าข้อมูลทุกอย่างจะถูกลบ ที่จริงก็ไม่ตรงนัก ข้อมูลยังคงเปิดให้เข้าถึงได้อยู่ เพราะอย่างนั้นถ้าไมโครซอฟท์บอกว่าคุณกำลังรีเซ็ตอะไรสักอย่าง มันก็คงไม่ตรงกับความจริง"
ทางเว็บไซต์ต้นเรื่อง Kotaku ได้ติดต่อไปยังไมโครซอฟท์เพื่อขอคำชี้แจงในเรื่องดังกล่าว แต่ก็ยังไม่มีการตอบกลับมาแต่อย่างใด
ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต ม.ค. หดเหลือ 1.01 แสนล้าน ลดลง 2.78 หมื่นล้านบาท
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานการให้บริการบัตรเครดิตประจำเดือน ม.ค.ปี 55 พบว่า ปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตทั้งสิ้นรวม 1.01 แสนล้านบาท ลดลง 2.78 หมื่นล้านบาท หรือร้อยละ 21.54 จาก 1.29 แสนล้านบาทในเดือนมกราคม 54 โดยบัตรเครดิตของธนาคารพาณิชย์มียอดใช้จ่ายลดลงมากที่สุด ส่วนประเภทการใช้จ่ายลดลงแบ่งเป็น การใช้จ่ายในประเทศมีจำนวน 8.7 หมื่นล้านบาท ลดลง 1.73 หมื่นล้านบาท หรือร้อยละ 16.62 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า การใช้จ่ายในต่างประเทศมีจำนวน 4,690 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย 93 ล้านบาท หรือร้อยละ 1.95 ส่วนการเบิกเงินสดล่วงหน้าผ่านบัตรมีจำนวน 9,748 ล้านบาท ลดลง 1.04 หมื่นล้านบาท หรือรร้อยละ 51.65
ทั้งนี้ บัตรเครดิตทั้งระบบในเดือน ม.ค.มีจำนวน 15.27 ล้านใบ ลดลง 5.92 หมื่นใบ หรือร้อยละ 0.39 เทียบกับเดือนก่อนหน้า โดยมียอดสินเชื่อคงค้างรวมทั้งสิ้น 2.19 แสนล้านบาท ลดลง 9,581 ล้านบาท เมื่อเทียบธุรกิจบัตรเครดิตกับช่วงเดียวกันปีก่อน พบว่าขยายตัวได้ดี มีจำนวนบัตรเครดิตเพิ่มขึ้น 1.06 ล้านใบ หรือร้อยละ 7.47 ยอดสินเชื่อคงค้างเพิ่มขึ้น 1.43 หมื่นล้านบาท ขณะที่ปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรทั้งระบบเพิ่มขึ้น 2,705 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.74 แบ่งเป็นการใช้จ่ายในประเทศเพิ่มขึ้น 1.20 หมื่นล้านบาท ใช้จ่ายในต่างประเทศเพิ่มขึ้น 957 ล้านบาท และเบิกถอนเงินสดล่วงหน้าผ่านบัตรเพิ่มขึ้น 1.03 หมื่นล้านบาท
ส่วนยอดการให้บริการสินเชื่อบุคคลของสถาบันการเงินในกำกับ ธปท.รายงาน ว่า ในเดือน ม.ค.ปีนี้มีจำนวนบัญชีสินเชื่อส่วนบุคคลทั้งสิ้น 8.82 ล้านบัญชี ลดลง 9.47 หมื่นบัญชี หรือร้อยละ 1.06 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า และบัญชีทั้งหมดมียอดสินเชื่อคงค้างทั้งสิ้น 2.12 แสนล้านบาท ลดลง 1,500 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.70
นางทองอุไร ลิ้มปิติ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายสถาบันการเงิน ธปท. กล่าวว่า การลดลงของบัตรเครดิตดังกล่าว ไม่ได้ลดลงรุนแรงจนถึงขั้นน่าห่วง มีความเป็นไปได้ว่ายอดใช้จ่ายที่ลดลงอาจจะเป็นเพราะสินค้าที่ผลิตในตลาดยังกลับมาฟื้นตัวผลิตไม่เต็มที่ ทำให้มีสินค้าไม่เพียงพอความต้องการของตลาด และส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะผู้บริโภคยืดระยะเวลาการซ่อมบำรุงหลังน้ำท่วมออกไปก่อน เพราะความไม่พร้อมบางด้าน เช่น หาช่างไม่ได้ เป็นต้น ทำให้การใช้จ่ายโดยรวมผ่านบัตรช่วงนี้ลดลงด้วย
ขอขอบคุณข้อมูล:matichon.co.th ลงวันที่ 24-03-2012 by creditonhand
ทั้งนี้ บัตรเครดิตทั้งระบบในเดือน ม.ค.มีจำนวน 15.27 ล้านใบ ลดลง 5.92 หมื่นใบ หรือร้อยละ 0.39 เทียบกับเดือนก่อนหน้า โดยมียอดสินเชื่อคงค้างรวมทั้งสิ้น 2.19 แสนล้านบาท ลดลง 9,581 ล้านบาท เมื่อเทียบธุรกิจบัตรเครดิตกับช่วงเดียวกันปีก่อน พบว่าขยายตัวได้ดี มีจำนวนบัตรเครดิตเพิ่มขึ้น 1.06 ล้านใบ หรือร้อยละ 7.47 ยอดสินเชื่อคงค้างเพิ่มขึ้น 1.43 หมื่นล้านบาท ขณะที่ปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรทั้งระบบเพิ่มขึ้น 2,705 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.74 แบ่งเป็นการใช้จ่ายในประเทศเพิ่มขึ้น 1.20 หมื่นล้านบาท ใช้จ่ายในต่างประเทศเพิ่มขึ้น 957 ล้านบาท และเบิกถอนเงินสดล่วงหน้าผ่านบัตรเพิ่มขึ้น 1.03 หมื่นล้านบาท
ส่วนยอดการให้บริการสินเชื่อบุคคลของสถาบันการเงินในกำกับ ธปท.รายงาน ว่า ในเดือน ม.ค.ปีนี้มีจำนวนบัญชีสินเชื่อส่วนบุคคลทั้งสิ้น 8.82 ล้านบัญชี ลดลง 9.47 หมื่นบัญชี หรือร้อยละ 1.06 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า และบัญชีทั้งหมดมียอดสินเชื่อคงค้างทั้งสิ้น 2.12 แสนล้านบาท ลดลง 1,500 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.70
นางทองอุไร ลิ้มปิติ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายสถาบันการเงิน ธปท. กล่าวว่า การลดลงของบัตรเครดิตดังกล่าว ไม่ได้ลดลงรุนแรงจนถึงขั้นน่าห่วง มีความเป็นไปได้ว่ายอดใช้จ่ายที่ลดลงอาจจะเป็นเพราะสินค้าที่ผลิตในตลาดยังกลับมาฟื้นตัวผลิตไม่เต็มที่ ทำให้มีสินค้าไม่เพียงพอความต้องการของตลาด และส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะผู้บริโภคยืดระยะเวลาการซ่อมบำรุงหลังน้ำท่วมออกไปก่อน เพราะความไม่พร้อมบางด้าน เช่น หาช่างไม่ได้ เป็นต้น ทำให้การใช้จ่ายโดยรวมผ่านบัตรช่วงนี้ลดลงด้วย
ขอขอบคุณข้อมูล:matichon.co.th ลงวันที่ 24-03-2012 by creditonhand
ธุรกิจบัตรเครดิต ปีนี้โตอีก 15 % จากปัจจัยด้านการปรับขึ้นค่าครองชีพระดับ ปริญญาตรีของภาครัฐ และราคาสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งจะกระตุ้นความต้องการสินเชื่อระยะสั้น ขณะที่ธนาคารพาณิชย์แห่จับลูกค้าบัตรเครดิตจบใหม่ที่เริ่มมีรายได้
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยข้อมูล แนวโน้มสินเชื่อบัตรเครดิตในปีนี้ว่า น่าจะขยายตัวได้เพิ่มขึ้นกว่า 15 % เพิ่มขึ้นจากปี 2554 ที่ขยายตัวได้ 11.9 % โดยจะมาจากปัจจัยด้านการเร่งตัวขึ้นของการใช้จ่าย ตามราคาสินค้า และพลังงานที่แพงขึ้น ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคมีความต้องการสินเชื่อระยะสั้น ประกอบกับการปรับเพิ่มค่าครองชีพข้าราชการ ซึ่งจะเพิ่มฐานกลุ่มลูกค้าที่ศักยภาพ ซึ่งธนาคารพาณิชย์หลายแห่ง ก็จะเดินหน้ารุกตลาดสินเชื่อส่วนบุคคลมากขึ้น เพื่อเพิ่มผลตอบแทนจากสินเชื่อในภาพรวม เนื่องจากธนาคารพาณิชย์ ต้องรับมือต้นทุนด้านการระดมทุน ที่ขยับขึ้นจากการนำเงินส่งชำระคืนหนี้สินของกองทุนฟื้นฟูฯ
สอดคล้องกับที่ นางอารยา ภู่พาณิชย์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายธุรกิจบัตรเครดิต ประเภทสินเชื่อบุคคล ธนาคารไทยพาณิชย์ ได้เผยว่า ผลจากการที่รัฐบาลมีมาตรการเพิ่มรายได้ให้กับประชาชนที่ชัดเจน โดยเฉพาะการปรับเพิ่มเงินเดือนข้าราชการปริญญาตรี 15,000 บาท จะทำให้ธนาคารหันมาจับกลุ่มลูกค้าบัตรเครดิต ที่เพิ่งจบการศึกษาขั้นปริญญาตรีเพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีเป็นจำนวนมาก และเริ่มมีรายได้ก้อนแรกเป็นของตัวเอง ทำให้มีการจับจ่ายใช้สอยได้ง่าย หลังจากที่ปัจจุบันลูกค้ากลุ่มหลักของธนาคาร เป็นผู้มีรายได้สูง โดยปีที่ผ่านมามียอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตอยู่ที่เดือนละ 50,000-60,000 บาทต่อราย สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดรวมบัตรเครดิตที่มียอดการใช้จ่ายอยู่ที่เดือนละ 10,000 บาทต่อราย โดยธนาคารได้ตั้งเป้าเพิ่มสมาชิกบัตรเครดิตใหม่อีก 1-2 แสนบัตรในปีนี้ จากปัจจุบันที่มีสมาชิกอยู่ที่ 2 ล้านบัตร
ขอขอบคุณข้อมูล:krobkruakao.com ลงวันที่ 10-03-2012 by creditonhand
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยข้อมูล แนวโน้มสินเชื่อบัตรเครดิตในปีนี้ว่า น่าจะขยายตัวได้เพิ่มขึ้นกว่า 15 % เพิ่มขึ้นจากปี 2554 ที่ขยายตัวได้ 11.9 % โดยจะมาจากปัจจัยด้านการเร่งตัวขึ้นของการใช้จ่าย ตามราคาสินค้า และพลังงานที่แพงขึ้น ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคมีความต้องการสินเชื่อระยะสั้น ประกอบกับการปรับเพิ่มค่าครองชีพข้าราชการ ซึ่งจะเพิ่มฐานกลุ่มลูกค้าที่ศักยภาพ ซึ่งธนาคารพาณิชย์หลายแห่ง ก็จะเดินหน้ารุกตลาดสินเชื่อส่วนบุคคลมากขึ้น เพื่อเพิ่มผลตอบแทนจากสินเชื่อในภาพรวม เนื่องจากธนาคารพาณิชย์ ต้องรับมือต้นทุนด้านการระดมทุน ที่ขยับขึ้นจากการนำเงินส่งชำระคืนหนี้สินของกองทุนฟื้นฟูฯ
สอดคล้องกับที่ นางอารยา ภู่พาณิชย์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายธุรกิจบัตรเครดิต ประเภทสินเชื่อบุคคล ธนาคารไทยพาณิชย์ ได้เผยว่า ผลจากการที่รัฐบาลมีมาตรการเพิ่มรายได้ให้กับประชาชนที่ชัดเจน โดยเฉพาะการปรับเพิ่มเงินเดือนข้าราชการปริญญาตรี 15,000 บาท จะทำให้ธนาคารหันมาจับกลุ่มลูกค้าบัตรเครดิต ที่เพิ่งจบการศึกษาขั้นปริญญาตรีเพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีเป็นจำนวนมาก และเริ่มมีรายได้ก้อนแรกเป็นของตัวเอง ทำให้มีการจับจ่ายใช้สอยได้ง่าย หลังจากที่ปัจจุบันลูกค้ากลุ่มหลักของธนาคาร เป็นผู้มีรายได้สูง โดยปีที่ผ่านมามียอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตอยู่ที่เดือนละ 50,000-60,000 บาทต่อราย สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดรวมบัตรเครดิตที่มียอดการใช้จ่ายอยู่ที่เดือนละ 10,000 บาทต่อราย โดยธนาคารได้ตั้งเป้าเพิ่มสมาชิกบัตรเครดิตใหม่อีก 1-2 แสนบัตรในปีนี้ จากปัจจุบันที่มีสมาชิกอยู่ที่ 2 ล้านบัตร
ขอขอบคุณข้อมูล:krobkruakao.com ลงวันที่ 10-03-2012 by creditonhand
เคทีซีชูแผนบุกตลาดบัตรรูดปรี๊ด งัดกลยุทธ์คืนเงินห้าเปอร์เซ็นต์ กระตุ้นยอด
"เคทีซี" เปิดแผนตลาดปีนี้เน้นกระตุ้นลูกค้ารูดปรื๊ดบัตรเครดิตเพิ่ม 1.1 หมื่นล้านบาท ส่วนบัตรใหม่ตั้งเป้าเพิ่ม 1 แสนใบ ประเดิมต้นปีส่งแคมเปญคืนเงินสดสูง 5% ช็อปผ่าน 2 กลุ่มฮอต "เติมน้ำมัน-ช็อป ซูเปอร์มาร์เก็ต" หวังกระตุ้นยอดรูดเพิ่มเดือนละ 15%
นาย วรวุฒิ นิสภกุลธร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานธุรกิจบัตรเครดิต บมจ.บัตรเคดิตกรุงไทย (KTC) กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทตั้งเป้าบัตรเครดิตใหม่เพิ่มอีกจำนวน 1 แสนใบ จากปัจจุบันที่มีฐานบัตร 1.6 ล้านใบ รวมเป็นจำนวนลูกค้า 1.1 ล้านราย
สา เหตุที่เคทีซีตั้งเป้ายอดบัตรเครดิตใหม่มีการเติบโตค่อนข้างจะต่ำกว่าเมื่อ เทียบกับธนาคารอื่น ๆ ที่ตั้งเป้าเพิ่มบัตรเครดิตใหม่เติบโตอัตราสูงนั้น เนื่องจาก ปีนี้เคทีซีจะเน้นเพิ่มยอดใช้จ่ายผ่าน บัตรเครดิตมากกว่าการเพิ่มจำนวนบัตรใหม่ เพราะผลตอบแทนขึ้นอยู่กับยอด ใช้จ่ายผ่านบัตรของลูกค้า โดยเป้าหมายยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตจะเพิ่ม 10% หรือ 1.1 หมื่นล้านบาท จากปีི ที่มียอดใช้จ่ายประมาณกว่า 1.1 แสนล้านบาท
โดยต้นปีนี้จะประเดิมแคมเปญ "สบายใจทุกการใช้จ่าย เคทีซีให้เงินคืนสูงสุด 5%" จากยอดใช้จ่ายผ่านบัตรหมวดน้ำมันผ่านสถานีบริการน้ำมัน ปตท. บางจาก และหมวดซูเปอร์มาร์เก็ต บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ และเทสโก้ โลตัส โดยแคมเปญนี้จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.-31 พ.ค.นี้ หลังจากหมดแคมเปญนี้จะมีการประเมินผลตอบรับประสบความสำเร็จเพียงใดด้วย เพื่อจะพิจารณาว่าจะต่ออายุแคมเปญนี้หรือไม่
นายวรวุฒิ คาดว่า แคมเปญนี้จะเพิ่มยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเป็น 5,800 บาท/บัตร/เดือน จากปีก่อนเฉลี่ยที่ 5,200 บาท/บัตร/ เดือน หรือเติบโตอย่างน้อย 15% อีกทั้งวางเป้าหมายบัตรเครดิตที่มีรายการใช้จ่ายสม่ำเสมอ (active) เป็น 70% จากปัจจุบันที่มีสัดส่วน 65%
ทั้งนี้ ในปีที่แล้วหมวดที่มียอดใช้จ่ายสูงสุดผ่านบัตรเครดิตเคทีซี ได้แก่ หมวดปั๊มน้ำมัน รองลงมา ซูเปอร์ มาร์เก็ต ซึ่งทั้ง 2 หมวดนี้มีสัดส่วนการใช้จ่ายสูงถึง 25% ของพอร์ตการใช้จ่ายรวมที่อยู่ 2.5 พันล้านบาทต่อเดือน บริษัทจึงได้นำมาใช้ทำการตลาดในปีนี้ หลังจากที่ชะลอ ทำแคมเปญคืนเงินสูงแบบนี้มานาน 2 ปี
นายวรวุฒิกล่าวเพิ่มว่า ขณะนี้ยอด ใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ โดยในเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรโต 40% จากเดือน พ.ย. 54 ที่เกิดเหตุการณ์น้ำท่วม และคาดว่ายอดใช้จ่ายผ่านบัตรในเดือน ม.ค.55 เติบโต 20% จากเดือน ธ.ค.54
และคาดว่ายอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตจะเข้าสู่ ระดับปกติในเดือน มี.ค. 55 จากเดือน ม.ค.-ก.พ.ที่เป็นช่วงพักฐาน อย่างไรก็ตามเชื่อว่า ยอดการใช้จ่ายในปีนี้จะเติบโตทุกหมวดธุรกิจ
ที่มา : prachachat.net ลงวันที่ 25/2/2555 By CreditOnHand
นาย วรวุฒิ นิสภกุลธร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานธุรกิจบัตรเครดิต บมจ.บัตรเคดิตกรุงไทย (KTC) กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทตั้งเป้าบัตรเครดิตใหม่เพิ่มอีกจำนวน 1 แสนใบ จากปัจจุบันที่มีฐานบัตร 1.6 ล้านใบ รวมเป็นจำนวนลูกค้า 1.1 ล้านราย
สา เหตุที่เคทีซีตั้งเป้ายอดบัตรเครดิตใหม่มีการเติบโตค่อนข้างจะต่ำกว่าเมื่อ เทียบกับธนาคารอื่น ๆ ที่ตั้งเป้าเพิ่มบัตรเครดิตใหม่เติบโตอัตราสูงนั้น เนื่องจาก ปีนี้เคทีซีจะเน้นเพิ่มยอดใช้จ่ายผ่าน บัตรเครดิตมากกว่าการเพิ่มจำนวนบัตรใหม่ เพราะผลตอบแทนขึ้นอยู่กับยอด ใช้จ่ายผ่านบัตรของลูกค้า โดยเป้าหมายยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตจะเพิ่ม 10% หรือ 1.1 หมื่นล้านบาท จากปีི ที่มียอดใช้จ่ายประมาณกว่า 1.1 แสนล้านบาท
โดยต้นปีนี้จะประเดิมแคมเปญ "สบายใจทุกการใช้จ่าย เคทีซีให้เงินคืนสูงสุด 5%" จากยอดใช้จ่ายผ่านบัตรหมวดน้ำมันผ่านสถานีบริการน้ำมัน ปตท. บางจาก และหมวดซูเปอร์มาร์เก็ต บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ และเทสโก้ โลตัส โดยแคมเปญนี้จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.-31 พ.ค.นี้ หลังจากหมดแคมเปญนี้จะมีการประเมินผลตอบรับประสบความสำเร็จเพียงใดด้วย เพื่อจะพิจารณาว่าจะต่ออายุแคมเปญนี้หรือไม่
นายวรวุฒิ คาดว่า แคมเปญนี้จะเพิ่มยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเป็น 5,800 บาท/บัตร/เดือน จากปีก่อนเฉลี่ยที่ 5,200 บาท/บัตร/ เดือน หรือเติบโตอย่างน้อย 15% อีกทั้งวางเป้าหมายบัตรเครดิตที่มีรายการใช้จ่ายสม่ำเสมอ (active) เป็น 70% จากปัจจุบันที่มีสัดส่วน 65%
ทั้งนี้ ในปีที่แล้วหมวดที่มียอดใช้จ่ายสูงสุดผ่านบัตรเครดิตเคทีซี ได้แก่ หมวดปั๊มน้ำมัน รองลงมา ซูเปอร์ มาร์เก็ต ซึ่งทั้ง 2 หมวดนี้มีสัดส่วนการใช้จ่ายสูงถึง 25% ของพอร์ตการใช้จ่ายรวมที่อยู่ 2.5 พันล้านบาทต่อเดือน บริษัทจึงได้นำมาใช้ทำการตลาดในปีนี้ หลังจากที่ชะลอ ทำแคมเปญคืนเงินสูงแบบนี้มานาน 2 ปี
นายวรวุฒิกล่าวเพิ่มว่า ขณะนี้ยอด ใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ โดยในเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรโต 40% จากเดือน พ.ย. 54 ที่เกิดเหตุการณ์น้ำท่วม และคาดว่ายอดใช้จ่ายผ่านบัตรในเดือน ม.ค.55 เติบโต 20% จากเดือน ธ.ค.54
และคาดว่ายอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตจะเข้าสู่ ระดับปกติในเดือน มี.ค. 55 จากเดือน ม.ค.-ก.พ.ที่เป็นช่วงพักฐาน อย่างไรก็ตามเชื่อว่า ยอดการใช้จ่ายในปีนี้จะเติบโตทุกหมวดธุรกิจ
ที่มา : prachachat.net ลงวันที่ 25/2/2555 By CreditOnHand
บัตรเครดิตกรุงศรี ร่วมกับ คริสปี้ ครีม จัดรายการพิเศษ A Sweet Deal for You & Your Valentine ฉลองเดือนแห่งความรัก
บริษัท บัตรกรุงศรีอยุธยา จำกัด จับมือ คริสปี้ ครีม (Krispy Kreme) จัดรายการพิเศษเทศกาลวันวาเวนไทล์ ฉลองเดือนแห่งความรักตลอดกุมภาพันธ์ 2555 : มอบให้แก่ลูกค้าผู้ถือบัตรเครดิตกรุงศรีทุกประเภท บัตรเครดิตโฮมโปร วีซ่า และบัตรเครดิต เอไอเอ เพียงซื้อ โดนัส คริสปี้ ครีม 2 โหล จะได้รับสิทธิ์แถม 6 ชิ้น มูลค่า 162 บาท ฟรี ! ที่สาขาสยามพารากอน สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว และสาขาเซ็นทรัลแกรนด์พระราม 9 เริ่มตั้งแต่วันนี้-29 กุมภาพันธ์ 2555
ขอบคุณที่มา : ryt9.com/s/prg/1341714
ขอบคุณที่มา : ryt9.com/s/prg/1341714
กรุงเทพฯ--30 ม.ค.—ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
นายสุขดี จงมั่นคง กรรมการผู้จัดการ บริษัทอยุธยา แคปปิตอล เซอร์วิสเซส จำกัด ผู้ให้บริการบัตรเครดิตเครือกรุงศรี และนายภูษิต กมลสุนทร ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายพัฒนาธุรกิจ กลุ่มผลิตภัณฑ์การเงินเพื่อผู้บริโภค พร้อมด้วยผู้บริหารสายการบินเอทิฮัด นำโดย เครก โทมัส ผู้จัดการประจำประเทศไทยและภูมิภาคแม่น้ำโขง และ นายชัยวุฒิ ชมสาคร ผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาดประจำประเทศไทย และภูมิภาคแม่น้ำโขง ร่วมผลึกกำลังจัดโปรโมชั่นบินสบาย 10 เส้นทางในฝัน ทั้งยุโรปและสหรัฐ อาทิ นครปารีส , ลอนดอน และมิลาน ในราคาสุดคุ้มแบบ "ซื้อ 1 แถม 1” เริ่มต้นเพียง 37,000 บาท พร้อมฟรีกระเป๋าเดินทางใบหรู และรถลิมูซีนรับส่งที่สนามบินไม่เพียงเท่านั้น ยังเอาใจแฟนบอลพรีเมียร์ลีก ด้วยโปรแกรมทัวร์พิเศษชมบิ๊กแมทช์ "แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปะทะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้" จัดเต็ม 6 วัน พร้อมกระทบไหล่นักฟุตบอลชื่อดังหลังเกม ในราคาสุดคุ้ม 84,000 บาท หรือเลือกผ่อนชำระดอกเบี้ย 0% นาน 4 เดือน โดยโปรโมชั่นดีๆอย่างนี้เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.-31 มี.ค.นี้เท่านั้น
_
เคทีซีจับมือซีพีเอ็นร่วมคืนความสุขกลับสู่บ้าน มอบสิทธิพิเศษแก่สมาชิกกับแคมเปญ Bring Back Happiness
_
_
นายวรวุฒิ นิสภกุลธรรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
สายงานธุรกิจบัตรเครดิต “เคทีซี” หรือ บริษัทบัตรกรุงไทย
จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เคทีซีร่วมสนับสนุนแคมเปญ Bring Back
Happiness คืนความสุขกลับสู่บ้าน ซึ่งทาง “ซีพีเอ็น”
หรือ
บริษัทเซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)ได้รวบรวมสินค้าราคาพิเศษและบริการเพื่อการฟื้นฟูที่พักของผู้ประสบภัยพร้อมทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาฟรี ตั้งแต่วันนี้ – 15 มกราคม 2555
ณศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซาในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑลจำนวน 5
แห่งได้แก่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ปิ่นเกล้า พระราม 2 รามอินทรารัตนาธิเบศร์ และแจ้งวัฒนะ ทั้งนี้เคทีซีได้มอบสิทธิพิเศษให้กับสมาชิกที่มีความจำเป็นต้องซื้อสินค้าใหม่ด้วยบริการ KTC Flexi by Phone แบ่งชำระสบายๆ
ด้วยอัตราดอกเบี้ยต่ำสุด 0.59% ต่อเดือน นาน 10 เดือนเพียงโทรศัพท์ขอเปลี่ยนยอดรวมการซื้อสินค้าหรือบริการในแต่ละรอบบัญชีเป็นยอดแบ่งชำระ (อัตราดอกเบี้ยขึ้นอยู่กับยอดรวมการใช้จ่ายของสมาชิก)นอกจากนี้ สมาชิกยังสามารถใช้คะแนนสะสม KTC Forever Rewards
500 คะแนนแลกเป็นเงิน 50 บาท คืนเข้าบัญชีบัตรเครดิตได้อีกด้วย”
__
เงื่อนไขบัตรเครดิตชาวนา เงื่อนไขบัตรเครดิตชาวนา หรือ บัตรเครดิตเกษตรกร
|
|
ข้อควรระวัง ในการสมัคร บัตรเครดิตและสินเชื่อ
1. ระวัง การสมัครกับ ตัวแทนหรือบุคคล ที่ใช้ใบสมัครที่ถ่ายสำเนา หรือส่งอีเมล์ใบสมัครแล้วให้กรอกข้อมูลการสมัครและแฟกซ์ใบสมัครพร้อมเอกสารกลับไปและมักจะใช้ข้อความหลอกว่าใบสมัครของท่านได้ผ่านการอนุมัติเบื้องต้นแล้ว เพื่อจะให้ท่านได้ส่งเอกสารกลับจากนั้นเขาก็จะทำการปลอมลายเซ็นต์ลงในใบสมัครตัวจริงอีกครั้ง การสมัครบัตรเครดิต และสินเชื่อต้องใช้ใบสมัครต้องเป็นฉบับจริงและเอกสารต้องเซ็นต์สดเท่านั้น
2. ระวัง ผู้สมัครต้องเซ็นต์ใบสมัครและเอกสารด้วยตนเอง ทุกครั้งที่สมัคร
3. ระวัง ถ้าไม่เคยได้รับการติดต่อจาก ธนาคารผู้ออกบัตร แล้วได้รับข้อความระบุว่า ให้ส่งเอกสารกลับเงินด่วน ภายใน 7 วัน ถ้าไม่ส่งจะถูกลบข้อมูล
4.ระวัง ถ้าได้รับข้อความว่าได้ผ่านการอนุมัติ บัตรเครดิตและสินเชื่อ โดยที่ผู้สมัครยังไม่ได้ กรอกใบสมัคร (การอนุมัติต้องได้รับการติดต่อและยืนยันจากธนาคารผู้ออกบัตรเท่านั้น)
5.ระวัง เมื่อมีความประสงค์จะยกเลิก บัตรเครดิตและบัตรกดเงินสดควรดำเนินการยกเลิกกับธนาคาร ด้วยตนเอง เท่านั้น ห้ามให้บุคคลอื่นดำเนินการแทนหรือฝากไปยกเลิกให้เด็ดขาด
1. ระวัง การสมัครกับ ตัวแทนหรือบุคคล ที่ใช้ใบสมัครที่ถ่ายสำเนา หรือส่งอีเมล์ใบสมัครแล้วให้กรอกข้อมูลการสมัครและแฟกซ์ใบสมัครพร้อมเอกสารกลับไปและมักจะใช้ข้อความหลอกว่าใบสมัครของท่านได้ผ่านการอนุมัติเบื้องต้นแล้ว เพื่อจะให้ท่านได้ส่งเอกสารกลับจากนั้นเขาก็จะทำการปลอมลายเซ็นต์ลงในใบสมัครตัวจริงอีกครั้ง การสมัครบัตรเครดิต และสินเชื่อต้องใช้ใบสมัครต้องเป็นฉบับจริงและเอกสารต้องเซ็นต์สดเท่านั้น
2. ระวัง ผู้สมัครต้องเซ็นต์ใบสมัครและเอกสารด้วยตนเอง ทุกครั้งที่สมัคร
3. ระวัง ถ้าไม่เคยได้รับการติดต่อจาก ธนาคารผู้ออกบัตร แล้วได้รับข้อความระบุว่า ให้ส่งเอกสารกลับเงินด่วน ภายใน 7 วัน ถ้าไม่ส่งจะถูกลบข้อมูล
4.ระวัง ถ้าได้รับข้อความว่าได้ผ่านการอนุมัติ บัตรเครดิตและสินเชื่อ โดยที่ผู้สมัครยังไม่ได้ กรอกใบสมัคร (การอนุมัติต้องได้รับการติดต่อและยืนยันจากธนาคารผู้ออกบัตรเท่านั้น)
5.ระวัง เมื่อมีความประสงค์จะยกเลิก บัตรเครดิตและบัตรกดเงินสดควรดำเนินการยกเลิกกับธนาคาร ด้วยตนเอง เท่านั้น ห้ามให้บุคคลอื่นดำเนินการแทนหรือฝากไปยกเลิกให้เด็ดขาด
ประเภท บััตรเครดิต
ประเภทและลักษณะของบัตรเครดิต
บัตรเครดิต สามารถจำแนกได้หลายประเภท หากจำแนกตามขอบเขตของการใช้บัตร
บัตรเครดิต ประเภทที่ 1. บัตรเครดิต ที่สามารถใชได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ (International Credit Card) เช่น บัตรเครดิต VISA บัตร Master บัตร Dinerัs Club และบัตร American Express เป็นต้น
บัตรเครดิต ประเภทที่ 2. บัตรเครดิต ที่ใช้ได้เฉพาะภายในประเทศ (Local Credit Card) เช่น บัตรเครดิตธนาคาร กรุงศรีอยุธยา
บัตรเครดิต ประเภทที่ 3. บัตรเครดิต ที่ใช้เฉพาะร้านค้า (Store Card หรือ Private Label) ได้แก่ บัตรเครดิตกรุงศรี บัตรเครดิตเพาเวอร์บาย บัตรเครดิตเทสโก้โลตัส เป็นต้น
นอกจากนี้ บัตรเครดิตยังนิยมจำแนก ลักษณะได้อีกบางประเภท ดังนี้ Charge Card ได้แก่ บัตรเครดิต ประเภทที่ผู้ถือบัตรจะต้องชำระยอดหนี้สิน ให้เสร็จสิ้นไปภายในระยะเวลาอันสั้นที่กำหนดไว้ ซึ่งโดยปกติได้แก่ 1 เดือน บัตรเครดิตประเภทนี้ มีจุดประสงค์ในการใช้สอยเพื่อชำระค่าบริการการเดินทางและท่องเที่ยวพักผ่อน ( Travel and Entertainment Card ) เป็นสาคัญ
บัตรเครดิต ประเภทนี้มักไม่ค่อยจำกัดวงเงิน ค่าใช้จ่ายล่วงหน้า กลุ่มเป้าหมายคือนักบริหารหรือบุคคลผู้มีฐานะทางการเงินดี ที่ต้องเดินทางหรือต้องเลี้ยงรับรองแขกอยู่เป็นประจำ บัตรเครดิตประเภทนี้ ได้แก่ บัตร Dinerัs Club และบัตร American Express Card ( AMEX )
Credit Card หรือ Bank Card
เป็นบัตรเครดิต ที่มักออกโดยสถาบันการเงินออกร่วมกับสถาบันบัตรเครดิตต่างประเทศ (International Credit Card) หรือสถาบันการเงินออกบัตรเครดิตเป็นของตนเอง ( Local Credit Card ) บัตรเครดิตนี้ นอกจากมีลักษณะการชำระเช่น เดียวกับ Charge Card คือต้องชำระยอด หนี้สินให้เสร็จสิ้นไปภายในระยะเวลาอันสั้นที่กำหนดไว้
ซึ่งโดยปกติ ได้แก่ 1 เดือนหรือ 30 วัน โดยไม่เสียดอกเบี้ย ผู้ถือบัตรเครดิต ยังสามารถเลือกชำระเงินคืนแต่เพียงบางส่วนได้ด้วยการใช้สินเชื่อหมุนเวียน (Revolving Credit) โดย เสียดอกเบี้ยด้วยก็ได้ ในกรณีนี้ยอดค้างชำระของบัตรเครดิตจะแปลงสภาพเป็นเงินกู้ที่ต้องผ่อนชำระ เป็นรายงวด อันเป็นช่องทางเพิ่มรายได้ให้แก่ผู้ออกบัตรอีกทางหนึ่ง
และ อีกด้านหนึ่งเป็นการเพิ่มความยืดหยุ่นในการชำระหนี้ของผู้ถือบัตรโดย บัตรเครดิต ประเภทนี้มีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้จ่ายในการชำระค่า สินค้าและบริการสําหรับการดำรง ชีวิตประจำวันเป็นสำคัญ มักมีการจำกัดวงเงินให้สินเชื่อ (Credit Line) ไว้ในระดับหนึ่ง บัตรเครดิตชนิดนี้ ได้แก่ บัตร VISA บัตร Master Card บัตรเครดิต ธนาคารต่าง ๆ เป็นต้น
นอกจากนั้น บัตรเครดิต ประเภท Bank Card นี้ ยังสามารถออกร่วมกับบริษัทห้างร้านต่างๆ ซึ่งนิยมเรียกว่า Affinity Card หรือ Co-Brand Card โดย ผู้ถือบัตรลักษณะนี้จะได้รับสิทธิประโยชน์ หรือส่วนลดจากบริษัทห้างร้านที่ออกบัตรเพิ่มเติมตามที่กำหนดด้วย เช่น บัตรเครดิตที่ธนาคารออกร่วมกับห้างสรรพสินค้าซึ่งนอกจากลูกค้าจะได้รับ เครดิตแล้วยังใช้เป็นส่วนลดในการซื้อสินค้าบางประการตามที่ห้างสรรพสินค้า กำหนดได้อีกด้วย
Store Card หรือ Private Label
หมายถึง บัตรเครดิต ที่ร้านค้าซึ่งโดยมากจะเป็นร้านสรรพสินค้าใหญ่ ๆ เป็นผู้ออกให้ แก่ลูกค้าโดยตรง เพื่อใช้ซื้อสินค้าและบริการในเครือข่ายหรือในสถานประกอบการ ของตนซึ่งมีลักษณะคล้ายบัตรเครดิต ยุคแรกเริ่มนั่นเอง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการขายของร้านค้าหรือของห้างนั้นๆ
Cash Card
หมายถึง บัตรเครดิต ที่เมื่อผู้ถือบัตรนำไปแสดงต่อธนาคารที่เกี่ยวข้องแล้วสามารถเบิก เงินสดล่วงหน้า ได้จากธนาคารผู้ออกบัตร หรือเบิกเงินสดล่วงหน้าได้โดยเบิกเงินจากเครื่อง ATM ที่เข้าร่วมให้บริการ ซึ่งผู้ใช้จะต้องเสียค่าธรรมเนียม และดอกเบี้ยตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้
Debit Card
เป็นบัตรที่ไม่มี สินเชื่อ ใช้เบิกเงินสดหรือใช้ชำระค่าสินค้าและบริการ โดยร้านค้าจะเรียกเก็บด้วย บริการ แม้บัตรเดบิตจะมีลักษณะที่ไม่ หักบัญชีของผู้ถือบัตรโดยตรงจากธนาคาร หรือหักผ่านระบบเครือข่ายของสถาบันบัตรเครดิตเหมือนกับบัตรเครดิต 5 ประเภทข้างต้น
แต่ในปัจจุบันตามประกาศของคณะกรรมการว่าด้วยสัญญาสำนักงานคุ้ม ครองผู้บริโภค ซึ่งประกาศให้ธุรกิจบัตรเครดิตเป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา กำหนดให้บัตรเครดิตหมายความรวมถึงบัตรเดบิตด้วย ความหมายของบัตรเดบิต บัตรเครดิต อาจมีลักษณะหนึ่งลักษณะใดหรือหลายลักษณะร่วมกันตามที่ได้อธิบาย ข้างต้นไว้ก็ได้
อย่างไรก็ตาม ทางสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ( สคบ.) ได้ให้ความหมายของบัตรเครดิตไว้ คือ บัตรที่ผู้ประกอบธุรกิจออกให้แก่ผู้บริโภคตามหลักเกณฑ์ค่าบริการหรือค่าอื่น ใด และวิธี การที่ผู้ประกอบธุรกิจกำหนดเพื่อใช้ชำระ ค่าสินค้า แทนการชำระด้วยเงินสดหรือเพื่อใช้เบิกถอนเงินสด แต่ไม่รวมถึงบัตรที่ ได้มีการชำระค่าสินค้า ค่าบริการหรือค่าอื่นใดไว้ล่วงหน้าแล้ว
บัตรเครดิต สามารถจำแนกได้หลายประเภท หากจำแนกตามขอบเขตของการใช้บัตร
บัตรเครดิต ประเภทที่ 1. บัตรเครดิต ที่สามารถใชได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ (International Credit Card) เช่น บัตรเครดิต VISA บัตร Master บัตร Dinerัs Club และบัตร American Express เป็นต้น
บัตรเครดิต ประเภทที่ 2. บัตรเครดิต ที่ใช้ได้เฉพาะภายในประเทศ (Local Credit Card) เช่น บัตรเครดิตธนาคาร กรุงศรีอยุธยา
บัตรเครดิต ประเภทที่ 3. บัตรเครดิต ที่ใช้เฉพาะร้านค้า (Store Card หรือ Private Label) ได้แก่ บัตรเครดิตกรุงศรี บัตรเครดิตเพาเวอร์บาย บัตรเครดิตเทสโก้โลตัส เป็นต้น
นอกจากนี้ บัตรเครดิตยังนิยมจำแนก ลักษณะได้อีกบางประเภท ดังนี้ Charge Card ได้แก่ บัตรเครดิต ประเภทที่ผู้ถือบัตรจะต้องชำระยอดหนี้สิน ให้เสร็จสิ้นไปภายในระยะเวลาอันสั้นที่กำหนดไว้ ซึ่งโดยปกติได้แก่ 1 เดือน บัตรเครดิตประเภทนี้ มีจุดประสงค์ในการใช้สอยเพื่อชำระค่าบริการการเดินทางและท่องเที่ยวพักผ่อน ( Travel and Entertainment Card ) เป็นสาคัญ
บัตรเครดิต ประเภทนี้มักไม่ค่อยจำกัดวงเงิน ค่าใช้จ่ายล่วงหน้า กลุ่มเป้าหมายคือนักบริหารหรือบุคคลผู้มีฐานะทางการเงินดี ที่ต้องเดินทางหรือต้องเลี้ยงรับรองแขกอยู่เป็นประจำ บัตรเครดิตประเภทนี้ ได้แก่ บัตร Dinerัs Club และบัตร American Express Card ( AMEX )
Credit Card หรือ Bank Card
เป็นบัตรเครดิต ที่มักออกโดยสถาบันการเงินออกร่วมกับสถาบันบัตรเครดิตต่างประเทศ (International Credit Card) หรือสถาบันการเงินออกบัตรเครดิตเป็นของตนเอง ( Local Credit Card ) บัตรเครดิตนี้ นอกจากมีลักษณะการชำระเช่น เดียวกับ Charge Card คือต้องชำระยอด หนี้สินให้เสร็จสิ้นไปภายในระยะเวลาอันสั้นที่กำหนดไว้
ซึ่งโดยปกติ ได้แก่ 1 เดือนหรือ 30 วัน โดยไม่เสียดอกเบี้ย ผู้ถือบัตรเครดิต ยังสามารถเลือกชำระเงินคืนแต่เพียงบางส่วนได้ด้วยการใช้สินเชื่อหมุนเวียน (Revolving Credit) โดย เสียดอกเบี้ยด้วยก็ได้ ในกรณีนี้ยอดค้างชำระของบัตรเครดิตจะแปลงสภาพเป็นเงินกู้ที่ต้องผ่อนชำระ เป็นรายงวด อันเป็นช่องทางเพิ่มรายได้ให้แก่ผู้ออกบัตรอีกทางหนึ่ง
และ อีกด้านหนึ่งเป็นการเพิ่มความยืดหยุ่นในการชำระหนี้ของผู้ถือบัตรโดย บัตรเครดิต ประเภทนี้มีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้จ่ายในการชำระค่า สินค้าและบริการสําหรับการดำรง ชีวิตประจำวันเป็นสำคัญ มักมีการจำกัดวงเงินให้สินเชื่อ (Credit Line) ไว้ในระดับหนึ่ง บัตรเครดิตชนิดนี้ ได้แก่ บัตร VISA บัตร Master Card บัตรเครดิต ธนาคารต่าง ๆ เป็นต้น
นอกจากนั้น บัตรเครดิต ประเภท Bank Card นี้ ยังสามารถออกร่วมกับบริษัทห้างร้านต่างๆ ซึ่งนิยมเรียกว่า Affinity Card หรือ Co-Brand Card โดย ผู้ถือบัตรลักษณะนี้จะได้รับสิทธิประโยชน์ หรือส่วนลดจากบริษัทห้างร้านที่ออกบัตรเพิ่มเติมตามที่กำหนดด้วย เช่น บัตรเครดิตที่ธนาคารออกร่วมกับห้างสรรพสินค้าซึ่งนอกจากลูกค้าจะได้รับ เครดิตแล้วยังใช้เป็นส่วนลดในการซื้อสินค้าบางประการตามที่ห้างสรรพสินค้า กำหนดได้อีกด้วย
Store Card หรือ Private Label
หมายถึง บัตรเครดิต ที่ร้านค้าซึ่งโดยมากจะเป็นร้านสรรพสินค้าใหญ่ ๆ เป็นผู้ออกให้ แก่ลูกค้าโดยตรง เพื่อใช้ซื้อสินค้าและบริการในเครือข่ายหรือในสถานประกอบการ ของตนซึ่งมีลักษณะคล้ายบัตรเครดิต ยุคแรกเริ่มนั่นเอง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการขายของร้านค้าหรือของห้างนั้นๆ
Cash Card
หมายถึง บัตรเครดิต ที่เมื่อผู้ถือบัตรนำไปแสดงต่อธนาคารที่เกี่ยวข้องแล้วสามารถเบิก เงินสดล่วงหน้า ได้จากธนาคารผู้ออกบัตร หรือเบิกเงินสดล่วงหน้าได้โดยเบิกเงินจากเครื่อง ATM ที่เข้าร่วมให้บริการ ซึ่งผู้ใช้จะต้องเสียค่าธรรมเนียม และดอกเบี้ยตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้
Debit Card
เป็นบัตรที่ไม่มี สินเชื่อ ใช้เบิกเงินสดหรือใช้ชำระค่าสินค้าและบริการ โดยร้านค้าจะเรียกเก็บด้วย บริการ แม้บัตรเดบิตจะมีลักษณะที่ไม่ หักบัญชีของผู้ถือบัตรโดยตรงจากธนาคาร หรือหักผ่านระบบเครือข่ายของสถาบันบัตรเครดิตเหมือนกับบัตรเครดิต 5 ประเภทข้างต้น
แต่ในปัจจุบันตามประกาศของคณะกรรมการว่าด้วยสัญญาสำนักงานคุ้ม ครองผู้บริโภค ซึ่งประกาศให้ธุรกิจบัตรเครดิตเป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา กำหนดให้บัตรเครดิตหมายความรวมถึงบัตรเดบิตด้วย ความหมายของบัตรเดบิต บัตรเครดิต อาจมีลักษณะหนึ่งลักษณะใดหรือหลายลักษณะร่วมกันตามที่ได้อธิบาย ข้างต้นไว้ก็ได้
อย่างไรก็ตาม ทางสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ( สคบ.) ได้ให้ความหมายของบัตรเครดิตไว้ คือ บัตรที่ผู้ประกอบธุรกิจออกให้แก่ผู้บริโภคตามหลักเกณฑ์ค่าบริการหรือค่าอื่น ใด และวิธี การที่ผู้ประกอบธุรกิจกำหนดเพื่อใช้ชำระ ค่าสินค้า แทนการชำระด้วยเงินสดหรือเพื่อใช้เบิกถอนเงินสด แต่ไม่รวมถึงบัตรที่ ได้มีการชำระค่าสินค้า ค่าบริการหรือค่าอื่นใดไว้ล่วงหน้าแล้ว